อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 10 พฤศจิกายน 2568 /PRNewswire/ — สำนักงานการลงทุนอาบูดาบี (ADIO) ได้ประกาศข้อตกลงการใช้งานเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติในเชิงพาณิชย์ รวม 29 ฉบับ โดยมีขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอด Abu Dhabi Autonomous Summit ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน Abu Dhabi Autonomous Week (ADAW) ครั้งแรก
ข้อตกลงครั้งสำคัญเหล่านี้ นับเป็นหมุดหมายสำคัญในแวดวงการขับเคลื่อนอัจฉริยะระดับโลก ซึ่ง ADIO ได้ทำร่วมกับพันธมิตรอย่าง K2, LODD Autonomous (LODD), Autologix, Sinaha, TractEasy, MLG และ Space42 ทำให้อาบูดาบีเป็นมหานครแห่งแรก ๆ ของโลกที่เปิดตัวระบบระเบียบและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่บูรณาการหลายรูปแบบ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เปลี่ยนผ่านจากขั้นตอนนำร่อง ไปสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ได้ทันที อาบูดาบีดึงดูดการลงทุนและพันธมิตรจากต่างประเทศ รวมถึงมีสนามทดสอบที่เอื้อต่อการนำเทคโนโลยีไปสู่การใช้ในเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ ส่งผลให้อาบูดาบีกลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ที่บริษัทยุคใหม่ในแวดวงยานยนต์อัตโนมัติต้องการเข้ามาจัดตั้งฐาน สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ พร้อมทดสอบและขยายขนาดเทคโนโลยีของตน
ข้อตกลงเชิงพาณิชย์ทั้ง 29 ฉบับนี้ ครอบคลุมภาคส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซ การจัดส่งอาหารและสินค้า โดยมีพันธมิตร เช่น Integrated Transport Centre (AD Mobility), Talabat, Noon และ Aramex ไปจนถึงบริการสุขภาพและโลจิสติกส์ ร่วมกับ PureLab และระบบโลจิสติกส์อัตโนมัติภาคอุตสาหกรรม
โซลูชันขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ทั้งในด้านการจัดส่งทางอากาศและภาคพื้นดิน รวมถึงการประยุกต์ใช้เฉพาะทางในภาคอุตสาหกรรม ได้เริ่มดำเนินการจริงในอาบูดาบีแล้ว แนวทางบูรณาการนี้ ซึ่ง SASC เข้ามากำกับดูแลและสนับสนุนในทุกรูปแบบของการขนส่ง กำลังจะเข้ามาพลิกโฉมวิธีที่ผู้บริโภคและบริษัทต่าง ๆ ส่งและรับสินค้าไปอย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน นวัตกรรมอัตโนมัติ และการนำมาใช้อย่างยั่งยืน ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ กำลังผลักดันให้เครือข่ายโลจิสติกส์แห่งอนาคตที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ใกล้จะเปิดใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดย SASC ได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ และการรักษาความปลอดภัย เพื่อเปิดโอกาสให้ประเมินความคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ รวมถึงทดสอบโซลูชันอัตโนมัติอย่างกว้างขวางในสถานการณ์จริงของอาบูดาบี
ฯพณฯ Badr Al-Olama ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการลงทุนอาบูดาบี กล่าวว่า “อาบูดาบีเป็นผู้นำในการพลิกโฉมวงการขับเคลื่อนและโลจิสติกส์อัจฉริยะ โดยข้อตกลงนำร่องเชิงพาณิชย์ 29 ฉบับนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่เด็ดขาดสู่อนาคตที่เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติจะสร้างมาตรฐานใหม่ ๆ ให้กับการขนส่งและการค้า ข้อตกลงเหล่านี้มีกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์อัจฉริยะและขับเคลื่อนอัตโนมัติ (SAVI) เป็นเสาหลักในการขับเคลื่อน และได้เปลี่ยนการวิจัยและพัฒนาที่สั่งสมมาหลายสิบปี ให้กลายเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์ที่เป็นรูปธรรม โดยรวมแล้ว นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่เทคโนโลยีเริ่มทำหน้าที่เป็นส่วนที่สำคัญและอยู่รอดได้ในระบบเศรษฐกิจโลก”
“การเปลี่ยนผ่านนี้เกิดขึ้นได้ด้วยวิสัยทัศน์ของสภาการพัฒนาระบบอัจฉริยะและขับเคลื่อนอัตโนมัติ (SASC) ที่ต้องการแนวทางที่ทุกส่วนสอดประสานกัน ซึ่งกฎระเบียบ โครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาอุตสาหกรรม จะก้าวไปพร้อมกัน เพื่อสร้างเส้นทางที่ชัดเจนสำหรับการนำไปใช้ การค้า และการยอมรับในวงกว้าง โดยการผลักดันโซลูชันที่รองรับอีคอมเมิร์ซ การดูแลสุขภาพ และโลจิสติกส์สำคัญนั้น เปิดโอกาสให้เราพร้อมตอกย้ำจุดยืนของอาบูดาบีในฐานะศูนย์กลางที่อุตสาหกรรมเกิดใหม่เติบโตได้รวดเร็ว ขยายตัวได้ไกล และสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนต่อธุรกิจและชุมชนทั่วโลก”
Sinaha Technology ซึ่งเป็นบริษัทในอาบูดาบีที่เชี่ยวชาญด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI, หุ่นยนต์ และโดรน กำลังพัฒนานวัตกรรมโลจิสติกส์ที่จะมาปฏิรูปการขนส่งสินค้าอย่างสิ้นเชิง ซึ่งรวมถึงยานพาหนะภาคพื้นดินขับเคลื่อนอัตโนมัติ (AGV) ที่สามารถทำงานได้ต่อเนื่องเพื่อลดการปล่อยมลพิษและลดต้นทุน คลังสินค้าอัจฉริยะที่ใช้ระบบหุ่นยนต์และ AI และระบบจัดการกลุ่มยานพาหนะแบบดิจิทัล ที่แสดงผลแบบเรียลไทม์และคาดการณ์ประสิทธิภาพได้
แนวทางการบริหารจัดการโลจิสติกส์แบบใหม่นี้ยังขยายไปยังเครือข่ายโลจิสติกส์ทางอากาศของอาบูดาบี ผ่านโครงการนำร่องโดรนจัดส่งระดับบุกเบิกหลายโครงการ นำโดย LODD โดยทำงานร่วมกับ PureLab, EMX, Noon และ Aramex โครงการนำร่องเหล่านี้จะนำเสนอศักยภาพระบบอากาศยานไร้คนขับในเชิงพาณิชย์ การปฏิบัติงาน และสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การขนส่งตัวอย่างทางการแพทย์แบบควบคุมอุณหภูมิที่ปลอดภัย ไปจนถึงการจัดส่งพัสดุและไปรษณีย์ที่ขยายผลได้ระหว่างศูนย์คัดแยกกับจุดรับสินค้าในชุมชน
อาบูดาบีกำลังเดินหน้าขยายการใช้ระบบโลจิสติกส์ขับเคลื่อนอัตโนมัติให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ผ่านความร่วมมือครั้งใหญ่ที่นำโดย K2 ซึ่งผนึกกำลังกับ Talabat, EMX, ENEC, Noon และกรมเทศบาลและการขนส่ง โครงการนำร่องเหล่านี้ครอบคลุมทั้งการใช้งานทางอากาศและภาคพื้นดิน โดยจะแสดงให้เห็นว่ายานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และโดรน สามารถปฏิวัติการจัดส่งในระยะสุดท้ายและระยะกลางได้อย่างไร ตั้งแต่โดรนอัตโนมัติที่บินส่งพัสดุระหว่างศูนย์กลางของ Talabat กับสถานีรับสินค้า ไปจนถึงยานพาหนะภาคพื้นดินที่ให้บริการเส้นทางโลจิสติกส์ทั่วอาบูดาบี โครงการเหล่านี้คือการหลอมรวมนวัตกรรม ความยั่งยืน และประสิทธิภาพการปฏิบัติงานเข้าด้วยกัน ส่วนการเปิดตัวรถทำความสะอาด (Robosweeper) ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และกลุ่มยานพาหนะภาคพื้นดินอัตโนมัติสำหรับพันธมิตรโลจิสติกส์รายใหญ่ ๆ ก็ยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำของอาบูดาบี ในการนำระบบอัตโนมัติมาใช้งานจริงทั่วทั้งเมือง ซึ่งช่วยเพิ่มผลิตภาพ สนับสนุนเป้าหมาย Net-Zero และเสริมสร้างสถานะของอาบูดาบีในฐานะศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการขับเคลื่อนและโลจิสติกส์อัจฉริยะ
สำหรับโครงการนำร่องการจัดส่งภาคพื้นดิน ได้ขยายขอบเขตออกไปให้ครอบคลุมสินค้าขนาดใหญ่ ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่าง Autologix (กิจการร่วมค้าของ 7X และ Zelostech) กับ Emirates Post โครงการนำร่องนี้จะนำยานพาหนะบรรทุกสินค้าขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 4 มาใช้งานในอาบูดาบี ยานยนต์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะชุดนี้ ไม่มีห้องคนขับหรือพวงมาลัย นับเป็นตัวแทนระบบโลจิสติกส์ในเมืองยุคใหม่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
ความริเริ่มทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการขับเคลื่อนแบบบูรณาการของอาบูดาบี ซึ่งจัดวางโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ และนวัตกรรมให้อยู่ภายใต้ SASC เพื่อผลักดันการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์แห่งอนาคตที่มีความยั่งยืน ความร่วมมือเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติและนวัตกรรมล้ำสมัย กำลังเข้ามากำหนดนิยามใหม่ในเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมให้อาบูดาบีเป็นผู้นำระดับโลกด้านการขับเคลื่อนอัจฉริยะและความเป็นเลิศด้านกฎระเบียบ เพื่อเบิกทางสู่เศรษฐกิจขับเคลื่อนอัตโนมัติแห่งอนาคต
เกี่ยวกับสภาการพัฒนาระบบอัจฉริยะและขับเคลื่อนอัตโนมัติ
สภาการพัฒนาระบบอัจฉริยะและขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Smart and Autonomous Systems Council หรือ SASC) ก่อตั้งขึ้นในปี 2567 ทำหน้าที่กำหนดทิศทางเชิงยุทธศาสตร์ในภาคส่วนเทคโนโลยีอัจฉริยะและขับเคลื่อนอัตโนมัติในอาบูดาบี SASC ขับเคลื่อนนโยบาย กฎระเบียบ การลงทุน และนวัตกรรม โดยประสานงานกับหน่วยงานรัฐบาล ผู้สร้างนวัตกรรมระดับโลก และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายในการสร้างระบบนิเวศระดับโลก ที่จะทำให้อาบูดาบีเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคต และเป็นศูนย์กลางชั้นนำระดับโลกสำหรับระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ
เกี่ยวกับ Abu Dhabi Autonomous Week
Abu Dhabi Autonomous Week (ADAW) นับเป็นแพลตฟอร์มหลักของอาบูดาบี ในการผลักดันระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ครอบคลุมทั้งภาคพื้นดิน ทะเล อากาศ ระบบหุ่นยนต์ และภาคอุตสาหกรรม การจัดงานครั้งแรกนี้โดยสภาการพัฒนาระบบอัจฉริยะและขับเคลื่อนอัตโนมัติ (SASC) ได้รวบรวมผู้นำในภาคอุตสาหกรรม ผู้กำหนดนโยบาย นักนวัตกรรม และนักลงทุนจากทั่วโลก เพื่อมาเชื่อมโยง ผนึกกำลัง และเร่งสร้างอนาคตของเทคโนโลยีอัตโนมัติ งานนี้เริ่มต้นด้วยการประชุมสุดยอด Abu Dhabi Autonomous Summit ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักสำหรับการเจรจาระดับสูงและการสร้างพันธมิตร ทั้งยังได้รับการเสริมทัพด้วยความริเริ่มสำคัญอื่น ๆ เช่น DRIFTx, RoboCup Asia-Pacific 2025 (RCAP 2025) และ Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ทั้งหมดนี้ตอกย้ำบทบาทของอาบูดาบีในฐานะศูนย์กลางระดับโลกสำหรับนวัตกรรม การลงทุน และการนำเทคโนโลยีอัตโนมัติมาใช้ในเชิงปฏิบัติอย่างปลอดภัยและยั่งยืน
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2818551/Abu_Dhabi_Autonomous_Week.jpg?p=medium600
View original content to download multimedia: Read More
