ปักกิ่ง และกัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย, 1 ส.ค. 2568 /PRNewswire/ — การประชุม SIDC-CASI SRI Conference ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นร่วมกันโดย Securities Industry Development Corporation (SIDC) และ Capacity-building Alliance of Sustainable Investment (CASI) ได้สิ้นสุดลงแล้วอย่างงดงามเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ การประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วันอย่างจัดเต็มนี้ มีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คนจากทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนและนานาชาติ ในหัวข้อ “Shaping the Future of ASEAN Business in Sustainability” (กำหนดทิศทางธุรกิจอาเซียนในด้านความยั่งยืน) โดยมุ่งผลักดันการเงินที่ยั่งยืนผ่านความร่วมมือข้ามพรมแดน นวัตกรรมนโยบาย และการพัฒนาบุคลากร
ดร. Ma Jun ประธานของ CASI ได้กล่าวถึงปัญหาหลักที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่กำลังเผชิญ นั่นคือ “ความเหลื่อมล้ำในการขอสินเชื่อ” (bankability gap) ที่ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยชี้ให้เห็นว่า โครงการสีเขียวที่เสนอเข้ามามากถึง 80% ไม่สามารถขอสินเชื่อได้ เนื่องจากขาดการสนับสนุนในระยะเริ่มต้น ดร. Ma จึงเรียกร้องให้เพิ่มการลงทุนในส่วนของการศึกษาความเป็นไปได้ในขั้นต้น กลไกทางการเงินที่เป็นนวัตกรรม และเงินทุนสนับสนุน พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาขีดความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสำนักงานการลงทุนของครอบครัวและนักลงทุนในประเทศ
ด้าน Tengku Zarina Tengku Chik ซีอีโอของ SIDC กล่าวในพิธีเปิดว่า มาเลเซียมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่ยั่งยืนของภูมิภาค พร้อมย้ำว่าความพยายามของ SIDC ในการสร้างบุคลากรและขีดความสามารถของสถาบันอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนวาระด้านการเงินที่ยั่งยืนของภูมิภาคนี้
Dato’ Mohammad Faiz Azmi ประธานบริหารของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์มาเลเซีย (SC) ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการกำหนดนโยบายระดับภูมิภาคให้สอดคล้องกัน และเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องในอาเซียนนำกรอบการทำงานต่าง ๆ มาใช้ เช่น เกณฑ์การจำแนกประเภทการเงินที่ยั่งยืนอาเซียน (ASEAN Taxonomy for Sustainable Finance) และแนวทางของอาเซียนด้านการเงินเพื่อการเปลี่ยนผ่าน (ASEAN Transition Finance Guidance) เพื่อช่วยให้การลงทุนสีเขียวข้ามพรมแดนง่ายขึ้น ทั้งยังยืนยันว่า SC จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนากฎระเบียบและเสริมสร้างศักยภาพให้กับสถาบันการเงิน บริษัท และ SME ต่าง ๆ ในการปรับใช้แนวทางด้านความยั่งยืน
ส่วน YB Liew Chin Tong รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรม ได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการที่เด็ดขาดและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อผนวกความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมเน้นย้ำว่าความยั่งยืนคือรากฐานสำคัญสำหรับอาเซียน เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในระยะยาวและการเติบโตอย่างครอบคลุม
ภายในงานมีการเสวนาในหัวข้อสำคัญต่าง ๆ เช่น การกำหนดเกณฑ์จำแนกประเภทด้านความยั่งยืนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน, ระบบการเปิดเผยข้อมูล ESG แบบดิจิทัล, การรวมตลาดคาร์บอน และการจัดหาเงินทุนที่เหมาะสมสำหรับ MSME โดยมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่าง SIDC และ CASI เพื่อสร้างความร่วมมือระยะยาวด้านการศึกษาและพัฒนาบุคลากรในแวดวงการเงินที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ CASI Academy ยังได้เปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งมีหลักสูตร 40 ชั่วโมงที่นำเสนอผ่านวิดีโอแบบอินเทอร์แอกทีฟพร้อมอวาตาร์แอนิเมชัน และยังได้เปิดเผยถึง Competency Framework ที่กำลังจะจัดทำ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรับรองมาตรฐานใหม่ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้
ในพิธีปิดการประชุม ดร. Ma ได้ประกาศข้อมูลเกี่ยวกับอีเวนต์สำคัญ 2 งานที่ CASI กำลังจะมีขึ้น ได้แก่ การประชุมระดับภูมิภาค ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ในวันที่ 12 กันยายน 2568 ระหว่างช่วง Green Week และงาน CASI Sustainability Forum ที่ประเทศบราซิล ซึ่งจะจัดขึ้นพร้อมกับการประชุม COP30 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.casi.net/events/169
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ: Jessica Tsang, [email protected]
View original content to download multimedia: Read More