ปักกิ่ง 16 กรกฎาคม 2568 /PRNewswire/ — พิธีเปิดงานมหกรรม China International Supply Chain Expo (CISCE) ครั้งที่ 3 ได้จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 16 กรกฎาคม โดยในงานนี้ China Council for the Promotion of International Trade (CCPIT) ได้ร่วมมือกับตัวแทนจากภาคธุรกิจทั่วโลกเพื่อเปิดตัวโครงการริเริ่มปักกิ่งในงาน China International Supply Chain Expo ครั้งที่ 3
ผู้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิด ประกอบไปด้วย Paul Mashatile รองประธานาธิบดีแอฟริกาใต้, Ekachat Seetavorarat รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทย, Jensen Huang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ NVIDIA, John W.H. Denton เลขาธิการหอการค้านานาชาติ, Sherard Cowper-Coles ประธานสภาธุรกิจจีน-อังกฤษ และ Liao Lin ประธานธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,100 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคมจากประเทศ ภูมิภาค และองค์กรระหว่างประเทศกว่า 100 แห่ง
Ren Hongbin ประธาน CCPIT เป็นประธานในพิธีนี้ เขาได้กล่าวว่างานมหกรรมในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานจากนานาชาติที่กว้างขวางขึ้น โครงสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมกับกล่าวเน้นย้ำเกี่ยวกับนวัตกรรม โดย Ren สนับสนุนให้สมาชิกภาคธุรกิจทั่วโลกทำงานร่วมกันเพื่อรักษา และสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่มี World Trade Organization เป็นหลักผ่านการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ และความร่วมมือเชิงรุก เขายังกล่าวเสริมอีกว่า CCPIT จะยังคงให้บริการทั้งบริษัทในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยคงไว้ซึ่งสาธารณประโยชน์ระดับโลกของอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน และมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง และสรรค์สร้างอนาคตของมนุษยชาติร่วมกัน
งาน CISCE ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดโดย CCPIT จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16 ถึง 20 กรกฎาคม ภายใต้หัวข้อ Connecting the World for a Shared Future โดยมีองค์กรระหว่างประเทศ 5 แห่งให้การสนับสนุนงานนี้ในฐานะพันธมิตร อันได้แก่ UN Trade and Development (UNCTAD), UN Commission on International Trade Law (UNCITRAL), World Intellectual Property Organization (WIPO), International Trade Centre (ITC) และ International Chamber of Commerce (ICC)
นอกจากนี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นประเทศแขกผู้ทรงเกียรติ ในขณะที่มณฑลซานตงและกวางตุ้งได้รับเลือกเป็นมณฑลผู้ทรงเกียรติ งานมหกรรมในปีนี้ยังประกอบไปด้วยห่วงโซ่อุตสาหกรรมหลัก 6 หมวด และหนึ่งพื้นที่จัดแสดง อันประกอบไปด้วย ห่วงโซ่การผลิตขั้นสูง, ห่วงโซ่ยานยนต์อัจฉริยะ, ห่วงโซ่เกษตรกรรมสีเขียว, ห่วงโซ่พลังงานสะอาด, ห่วงโซ่เทคโนโลยีดิจิทัล, ห่วงโซ่ชีวิตที่มีสุขภาพดี และพื้นที่บริการห่วงโซ่อุปทาน โดยมีบริษัทและองค์กรเข้าร่วมงานรวม 651 แห่ง จาก 75 ประเทศและภูมิภาค เพื่อจัดแสดงเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ล้ำสมัย ซึ่งครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศมีจำนวนมากถึง 35 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดอีกด้วย
View original content to download multimedia: Read More