ระยอง, ไทย, 23 พฤษภาคม 2568 /PRNewswire/ — ฉางอาน ออโตโมบิล (ChangAn Automobile) (“ฉางอาน” หรือ “บริษัทฯ”) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะคาร์บอนต่ำ ได้ฤกษ์เริ่มการผลิตที่โรงงานผลิตรถยนต์พลังงานใหม่แห่งแรกของฉางอานนอกประเทศจีน ณ จังหวัดระยอง ประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะกับการฉลองครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทยพอดี ยิ่งไปกว่านั้น รถคันที่ 28.59 ล้านของฉางอานก็ยังได้ออกจากสายการผลิตในวันเดียวกันนี้ด้วย การเปิดโรงงานแห่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังกระชับความร่วมมือด้านยานยนต์ระหว่างจีนกับไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย ทั้งยังเป็นการเร่งยุทธศาสตร์ Vast Ocean Plan (มหาสมุทรอันกว้างใหญ่) ของฉางอาน ด้วยการส่งออกอุตสาหกรรมออกไปทั้งระบบ สะท้อนให้เห็นศักยภาพของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมส่งต่อนวัตกรรมจากจีนไปทั่วโลก
ข้อมูลจาก ASEAN Briefing ระบุว่า ไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภาคยานยนต์มีส่วนสำคัญต่อ GDP ไทยถึง 10-11% และรัฐบาลไทยยังคงเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าให้สัดส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573 การที่ฉางอานทุ่มลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาทในโรงงานระยองนี้ จึงเป็นการตอบรับโดยตรงต่อความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคอาเซียน
โรงงานฉางอานที่ระยองนั้นครอบคลุมพื้นที่ 245 ไร่ (ประมาณ 392,000 ตารางเมตร) และมีอาคารปฏิบัติการหลัก 5 ส่วน โรงงานแห่งนี้ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอัจฉริยะ” โดยมีการนำแสงธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงระบบรีไซเคิลน้ำ เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานต่อรถยนต์แต่ละคัน นอกจากนี้ การนำระบบอัตโนมัติขั้นสูงและการจำลองแบบดิจิทัลมาใช้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการผลิตอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในแผนการขยายธุรกิจของฉางอานสู่ระดับโลก และในอนาคตยังมีแผนที่จะพัฒนากระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น เสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่น และกระชับความร่วมมือระหว่างจีน-ไทย ในด้านการสัญจรอย่างยั่งยืนและนวัตกรรมล้ำสมัย
ย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม 2566 ฉางอานได้ก่อตั้งบริษัทย่อย 3 แห่ง พร้อมประกาศให้ประเทศไทยเป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค จากนั้นในเดือนตุลาคม คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทยก็ได้อนุมัติการลงทุนสำหรับการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ ครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าล้วนและรถยนต์ไฟฟ้าแบบขยายระยะวิ่ง และในเดือนพฤศจิกายน 2566 ฉางอานก็ได้เริ่มลงเสาเข็มก่อสร้างโรงงานที่ระยองอย่างเป็นทางการ ฉางอานมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างฐานการผลิตในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน และตั้งเป้าที่จะพัฒนาโรงงานระยองให้เป็นต้นแบบสำหรับเครือข่ายการผลิตทั่วโลก โรงงานแห่งนี้จะผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์หลักทั้งสาม ได้แก่ CHANG-AN, DEEPAL และ AVATR โดยมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 100,000 คันต่อปี เป็น 200,000 คันภายในปี 2570
ในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้น รถยนต์คันที่ 28.59 ล้านของฉางอาน ซึ่งเป็นรถ DEEPAL S05 รุ่นพวงมาลัยขวา ก็ได้ออกจากสายการผลิตไปอย่างงดงาม พร้อมนำพานวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะไปสู่ผู้ขับขี่ทั้งในไทยและทั่วโลก ก่อนหน้านี้ รถรุ่น DEEPAL S07, E07 และ AVATR 11 ก็ได้เปิดตัวในประเทศไทยไปแล้ว โดยกวาดยอดขายไปได้กว่า 14,000 คัน ทำให้ฉางอานติดท็อป 4 ตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของไทยได้อย่างรวดเร็ว
ฉางอานยังคงยึดมั่นในหลักการ “In Thailand, For Thailand” (ในไทย เพื่อไทย) อย่างเหนียวแน่น ในขณะที่เดินหน้าขยับขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเตรียมสร้างคลังอะไหล่ในจังหวัดระยอง เพื่อเป็นศูนย์กลางอะไหล่สำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาทั่วโลก ทั้งยังตั้งเป้าสร้างความพึงพอใจให้ได้ 98% และสามารถจัดส่งได้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังจะมีการอัปเกรดแพลตฟอร์มดิจิทัลในไทยด้วยระบบควบคุมอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI, ระบบบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ ระบบตรวจสอบแบตเตอรี่ และระบบวินิจฉัยจากระยะไกล บริษัทฯ ยังคาดการณ์ว่าจะสร้างงานทั้งต้นน้ำและปลายน้ำในไทยได้กว่า 30,000 ตำแหน่ง ผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมและโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย
แผน Vast Ocean Plan ของฉางอานกำลังเร่งเครื่องขยายธุรกิจไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการดำเนินงานใน 5 ตลาดสำคัญทั่วโลกที่ยกระดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ให้เทียบเท่ากับตลาดในประเทศจีน โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในตลาดโลกจาก 30 ล้านคัน เป็น 50 ล้านคัน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ยื่นจดสิทธิบัตรไปแล้วกว่า 14,000 ฉบับ ซึ่ง 70% เป็นสิทธิบัตรด้านการประดิษฐ์ สะท้อนให้เห็นถึงขีดความสามารถของบริษัทฯ ในการวิจัยและพัฒนาอย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบัน ฉางอานมีโรงงาน KD รวม 9 แห่ง และโรงงานผลิตรถยนต์แบบครบวงจร 1 แห่งที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว พร้อมเดินหน้าสร้างเครือข่ายการผลิตที่แข็งแกร่งในระดับโลกในประเทศต่าง ๆ เช่น คาซัคสถานและอียิปต์ นอกจากนี้ ฉางอานยังได้เปิดตัวแบรนด์ใน 22 ประเทศทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยมีจุดบริการขายกว่า 9,000 แห่งทั่วโลกคอยให้การสนับสนุน ทั้งยังมีการลงทุนด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) กว่าปีละ 30 ล้านหยวน เพื่อสนับสนุนงานสาธารณประโยชน์ทั่วโลก
ก่อนพิธีเปิดโรงงาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบกับ นายจู หัวหรง (Zhu Huarong) ประธานกรรมการ บริษัท ฉางอาน ออโตโมบิล ซึ่งท่านประธานฯ ได้แสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อรัฐบาลไทยที่ได้ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด และยังได้เน้นย้ำว่า ในอนาคต ฉางอานจะยังคงยึดมั่นในจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์โลกให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น
View original content to download multimedia: Read More