พาเที่ยวบ้าน “อีต่อง” จ.กาญจนบุรี หมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางขุนเขา 2 วัน 1 คืน

บ้านอีต่อง” หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ชายแดนฝั่งตะวันตก ของประเทศไทย ในจังหวัดกาญจนบุรี สถานที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก ซึ่งในอดีตราว ๆ ปี พ.ศ.2483 เคยรุ่งเรือง เป็นเหมืองขุดแร่ดีบุกที่มีคนงานร่วม 600 คน จนกระทั่งราคาแร่ทั่วโลกตกต่ำ ประมาณปี พ.ศ.2527 – 2528 ปิล็อกที่เคยรุ่งเรือง มีตลาดที่เฟื่องฟู มีโรงภาพยนตร์ถึง 2 โรง แต่เมื่อเหมืองแร่ต่าง ๆ ทยอยปิดตัวลง ทั้งหมดก็เงียบเหงา ปัจจุบันนี้รายได้หลักของหมู่บ้านอีต่องคือ การท่องเที่ยวและที่พักโฮมสเตย์ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ ความเงียบสงบ ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือเส้นทางขึ้นมายังหมู่บ้าน ซึ่งจะต้องผ่านเส้นทางขึ้นเขา และโค้งที่มากถึง 399 โค้ง และยังมีน้ำตกที่สามารถลงไปเล่นได้ รวมถึงจุดชมวิวต่าง ๆ ที่สวยงาม ทำให้ปัจจุบันเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการมาสัมผัส

บรรยากาศการเดินทาง 2 วัน 1 คืน ในช่วงเดือน เมษายน 2562

เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรีไปทางอุทยานแห่งชาติไทรโยค มุ่งหน้าสู่จุดหมายคือ บ้านอีต่อง ซึ่งระยะทาง 33 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนจะถึงนั้น จะเป็นเส้นทางขึ้นเขา และมีโค้งมากถึง 399 โค้งเลยทีเดียว

ถนนขึ้นไปยังหมู่บ้านและไปเที่ยวยังจุดชมวิวต่าง ๆ จะเป็นถนนลาดยาง 2 เลน สวนกัน จะมีบางจุดที่ถนนชำรุดทรุดโทรมเป็นหลุมไปบ้างตามกาลเวลา โปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง

ระหว่างทางก็จะมีจุดชมทิวทัศน์ให้เราได้จอดแวะพักชมบรรยากาศทิวเขาให้หายเหนื่อยก่อนจะเดินทางกันต่ออีกด้วย

ในวันแรกนี้หลังจากเราเดินทางขึ้นมาถึง ก็ทำการเก็บข้าวของต่าง ๆ เข้าที่พักโฮมสเตย์ที่เราทำการจองไว้แล้ว ที่นี่มีโฮมสเตย์ให้เลือกพักอยู่เยอะพอสมควร ราคาก็ประมาณ 800 – 1,000 บาท พร้อมอาหารเช้า (หากใครจะมาแนะนำให้หาข้อมูลและจองที่พักไว้ก่อนล่วงหน้าจะสะดวกกว่าเวลามาถึง และไม่ต้องเจอความเสี่ยงที่ที่พักจะเต็มด้วยในช่วงเทศกาล) เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของโฮมสเตย์ที่นี่คือจะไม่มีแอร์เพราะอาจจะทำให้ไฟฟ้าไม่เพียงพอ แต่ไม่ต้องห่วง พอเริ่มตกเย็นอากาศก็จะเริ่มเย็นไปจนถึงหนาวตลอดทั้งปี

หลังจากพักผ่อนกันตามอัธยาศัย รอเวลาจนถึงช่วงเย็นเราก็ออกไปจุดชมวิว “เนินช้างศึก” ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์สำคัญของการมาอีต่องเลยก็ว่าได้ หากท้องฟ้าเปิด จะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากทีเดียว (ระยะทางห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 3 ก.ม. เป็นเส้นทางลาดยาง ทางดินและทางปูน ที่บางช่วงถนนมีชำรุดเป็นหลุมอยู่บ้าง หากเป็นช่วงน่าแล้งถนนแห้ง รถทุกชนิดสามารถมาได้ แต่หากเป็นหน้าฝน อาจจะต้องเป็นรถที่ยกสูงสักหน่อยมิฉะนั้นอาจจะติดหล่มตรงช่วงถนนที่เป็นดินได้)

จากนั้นเราก็กลับมาบริเวณหมู่บ้านเพื่อเดิมชมบรรยากาศยามเย็น ก่อนจะซื้อของกินติดไม้ติดมือกลับไปนั่งกินกันบริเวณที่พัก และพักผ่อนเพื่อเตรียมลุยในวันถัดไป

เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 กับการทำบุญตักบาตร และข้าวต้ม + ปลาท่องโก๋ร้อน ๆ จากทางที่พัก (ในช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. จะมีพระเข้ามาบิณฑบาตรภายในหมู่บ้าน และเนื่องจากเราไปช่วงเดือนเมษายน จึงมีเณรที่มาบวชเรียนช่วงฤดูร้อนด้วย)

สะพานป้ายไม้ที่เหล่านักท่องเที่ยวมักจะมาฝากชื่อเอาไว้ ว่าครั้งหนึ่งเราเคยมาเยือนที่แห่งนี้ “อีต่อง”

จากนั้นเราก็เดินทางย้อนออกมาจากหมู่บ้านราว ๆ 8 ก.ม. เพื่อมุ่งหน้าไปยัง “น้ำตกจ๊อกกระดิ่น” จุดหมายสุดท้ายกับการนอนแช่น้ำเย็น ๆ ซักหน่อยเพื่อรีบูตร่างกายก่อนจะกลับมาเก็บข้าวของเดินทางกลับ เส้นทางลงมายังน้ำตกจ๊อกกระดิ่นนั้นเป็นทางปูนธรรมดา แต่มีความลาดชันค่อนข้างมาก โปรดระมัดระวังเรื่องการใช้เบรคในขาลง และกำลังเครื่องยนต์ในขาขึ้นด้วยนะครับ

ข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม

รถส่วนตัว ขึ้นได้ทุกชนิด สภาพถนนเป็นถนนลาดยาง บางช่วงมีผิวถนนชำรุดเป็นหลุมบ่อ ควรเดินทางขึ้นก่อนเวลา 15.00 น. เพื่อจะให้ถึงตัวหมู่บ้านก่อนมืด เพราะเส้นทางเป็นภูเขาและไม่มีไฟทาง รถเล็กควรเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนขี้นไป ***ถ้าต้องการเข้าชมน้ำตกจ๊อกกระดิ่น จะมีช่วงที่เป็นทางลาดชัน ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ***

รถโดยสารประจำทาง บขส.หมอชิต2 กรุงเทพ-ทองภาภูมิ มาลงที่ตลาดทองผาภูมิ จะมีรถสองแถวสีเหลือง ด้านข้างเขียนว่า ตลาดทองผาภูมิ – อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ – บ้านอีต่อง ขาขึ้น เริ่มเดินทางจากตลาดทองผาภูมิ รถออกประมาณเวลา 10.00 จนถึง 12.00 น. ขาลง จากบ้านอีต่องลงไปตลาดทองผาภูมิ รถออกเวลา  6.00 จนถึง 7.00 น. (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต) ส่วนการเดินทางไปเที่ยวตามจุดต่าง ๆ สามารถสอบถามกับทางที่พักที่เราพักหรือร้านค้าต่าง ๆ ได้เลยจะมีรถบริการนำเที่ยวอยู่

กิจกรรมที่แนะนำ

  • ชมวิวที่ จุดชมวิวเนินช้างศึก
  • ชมวิวที่ เนินเสาธง
  • ชมวิวที่ ช่องทางมิตรภาพไทย-พม่า
  • ตักบาตรตอนเช้า
  • เขียนป้ายที่ระลึก
  • เล่นน้ำตกจ๊อกกระดิ่น