Skip to content
Home » PR News » สุดยอดนวัตกรรมบริการโลจิสติกส์จาก ‘เบสท์ ประเทศไทย’

สุดยอดนวัตกรรมบริการโลจิสติกส์จาก ‘เบสท์ ประเทศไทย’

ปัจจุบันทุกธุรกิจต่างนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเพื่อปรับปรุง พัฒนา และส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโต เบสท์ ประเทศไทย หรือ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ก็เช่นกัน ได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่คิดค้นและพัฒนาโดยตรงจาก เบสท์ (BEST Inc.) ในประเทศจีน ผู้นำด้านซัพพลายเชนอัจฉริยะแบบบูรณาการ และผู้ให้บริการโซลูชันด้านโลจิสติกส์ในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทแม่ของ เบสท์ ประเทศไทย มาใช้เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในประเทศไทย ตอบสนองความต้องการของตลาดโลจิสติกส์ของไทยที่เพิ่มสูงขึ้น

ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในการยกระดับซัพพลายเชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในแต่ละขั้นตอน ทำให้การบริหารจัดการคลังสินค้า การขนส่ง และอื่น ๆ มีความสะดวกสบาย ทั้งต่อผู้ใช้และผู้ให้บริการ ด้วยเวลาที่รวดเร็วและต้นทุนที่แข่งขันได้ อาทิ เซนเซอร์ดิจิทัล (Digital Sensors), คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse), ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System), โดรน (Drone), หุ่นยนต์ส่งสินค้า (Delivery Robot), และระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving) เป็นต้น

เบสท์ ประเทศไทย ได้พัฒนาบริการที่ดีที่สุดด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ในบริการต่าง ๆ ในธุรกิจ BEST Supply Chain (เบสท์ ซัพพลายเชน) มีบริการ OFC (Order Fulfillment Center) ที่จะเข้ามาช่วยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์บริหารจัดการคลังสินค้าหลังบ้านอย่างมืออาชีพ เป็นระบบการจัดการคลังสินค้าที่เชื่อมต่ออัตโนมัติกับระบบอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไปจนถึงระบบเครือข่ายที่ให้บริการด้านขนส่งที่รวดเร็วภายในประเทศ อย่างเช่นบริการขนส่งพัสดุด่วนภายในประเทศจาก BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) หรือจะเป็น BEST SOFTWARE (เบสท์ ซอฟต์แวร์) บริการโซลูชันดิจิทัลเต็มรูปแบบเพื่อผู้ที่ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผู้ช่วยการขายออนไลน์ยุคใหม่ ที่ทั่วโลกใช้กันในระดับสากลรวมถึงประเทศไทย เช่น ezOrder (อีซี่ออเดอร์), ezShop (อีซี่ช้อป) และ GWMS (Global Warehouse Management System) เป็นต้น

อ่านเพิ่ม  วว. ผนึกกำลังภาคเอกชน มุ่งพัฒนาคิดค้น เทคโนโลยี นวัตกรรมการแพทย์และสาธารณสุขไทย ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ กับ นางศิริญา เทพเจริญ กรรมการบริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด และ นายวิษณุ เทพเจริญ กรรมการ บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรม ในลักษณะของ “คลัสเตอร์การวิจัยและพัฒนากัญชาและกัญชง” เพื่อผลักดันให้เกิดเทคโนโลยี นวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย พร้อมร่วมส่งเสริมนวัตกรรมศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดทางการแพทย์ให้กับประเทศไทย สนับสนุนส่งเสริมความมั่นคงทางด้านกัญชา กัญชง ทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของประเทศโดยรวม สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศด้วย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายหลัก รวมถึงการวิจัยพัฒนาและต่อยอดด้านโพรไบโอติกและสเต็มเซลล์ เพื่อให้เป็นผู้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีโพรไบโอติก สเต็มเซลล์ ในระดับสากล เป็นธนาคารรับฝากและจัดเก็บสเต็มเซลล์ ตลอดจนการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ระดับแนวหน้าของประเทศไทยและของโลก โอกาสนี้ นายสายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. พร้อมคณะผู้บริหารของทั้งสามหน่วยงานร่วมเป็นเกียรติด้วย ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคาร Admin วว. เทคโนธานี คลองห้า จังหวัดปทุมธานี ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญในการดำเนินงานของ วว. คือ การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็ง และพัฒนาขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศของทุกภาคส่วน ในลักษณะของการดำเนินการในเชิงบูรณาการ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ดังนั้น ความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง วว. กับบริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด และ บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไซแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และสอดคล้องกับแนวทางและเป้าหมายในการดำเนินงานของ วว. โดยความร่วมมือมีระยะเวลา 5 ปี จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องทั้งสามฝ่าย ทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ อีกทั้งยังจะส่งผลดีต่อการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในเชิงพาณิชย์ร่วมกันอย่างยั่งยืน “…ความร่วมมือครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างโอกาสให้ประเทศไทย สร้างโอกาสให้กับประชาชนได้เข้าถึงงานวิจัยที่เป็นประโยชน์และนำไปสู่การขยายผลในเชิงพาณิชย์ วว. จะทำงานอย่างเต็มความสามารถ ที่จะขับเคลื่อนให้ความร่วมมือทางวิชาการในวันนี้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้…” ผู้ว่าการ วว. กล่าว นางศิริญา เทพเจริญ กรรมการบริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีวามฝันและอุดมการณ์ที่ต้องการใช้นวัตกรรมหรือวิทยาศาสตร์ มาส่งเสริมเศรษฐกิจในช่วงเปลี่ยนการดำเนินองค์กรครบ 25 ปี และอยากเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ โดยใช้เศรษฐกิจและธุรกิจนำประเทศ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ คือ วว. มีองค์ความรู้ด้าน วทน.อยู่แล้วและแสวงหาภาคเอกชนหรือตลาดอื่นๆมาส่งเสริม จุดนี้จะเป็นโอกาสและความสำเร็จค่อนข้างสูงและจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของประเทศ นายวิษณุ เทพเจริญ กรรมการ บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เครือบริษัทณุศากรุ๊ปประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมองเห็นปัญหาของประเทศชาติและต้องการพัฒนาขับเคลื่อนการเกษตรบนฐานการใช้เทคโนโลยี โดยมีตลาดเป็นตัวเชื่อม เพื่อไม่ให้มีปัญหาเหมือนในอดีต วันนี้ วว. ได้ให้โอกาสใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ภาครัฐได้ลงทุนจำนวนมหาศาล เพื่อพัฒนาและทำให้เกิดผลิตผล ผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณค่าทางการตลาด พัฒนาผลงานให้เกิดประโยชน์เพื่อประเทศชาติของเราต่อไป การวิจัยและพัฒนากัญชา-กัญชง ภายใต้ความร่วมมือ จะเริ่มตั้งแต่ การปลูก การพัฒนาสายพันธุ์คุณภาพที่ให้ปริมาณสารสำคัญสูง การสกัดกลั่นสารสำคัญ การสร้างมาตรฐานการผลิตและการใช้ประโยชน์ของพืช กัญชา-กัญชง ทางเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่จากกัญชา-กัญชง การคิดค้นตำรับยาและการใช้สารสำคัญในการพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ร่วมมือในการวิจัยด้านกัญชา และกัญชงเพื่อใช้ในทางการแพทย์ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการสร้างมาตรฐานการผลิต เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการผลิตสารสำคัญ การสร้างมาตรฐานการผลิต (มาตรฐาน ISO / IEC 17025) การผลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาและกัญชง ได้อย่างปลอดภัย ในส่วนการวิจัยพัฒนาและต่อยอดด้าน โพรไบโอติก (probiotics) และสเต็มเซลล์ (Stem Cell) มุ่งเน้นพัฒนาวิธีการบำบัดรักษาด้วยเซลล์ การเป็นผู้นำในธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชีวภาพ อีกทั้งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการทางชีวภาพ (Bioprocessing) ในทุกๆ สาขา พัฒนาต่อยอดทางด้านเทคโนโลยีการแพทย์และการสาธารณสุขเพื่อรองรับอุปสงค์และอุปทาน การถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตและบริการด้านอุตสาหกรรมทางการแพทย์ การสร้างระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ครบวงจร อันเป็นการสร้างความเจริญก้าวหน้าในทางการแพทย์ การแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์ทางเลือก หมอพื้นบ้าน โดยจะให้ความร่วมมือในการดูแลและรักษาคนไข้ร่วมกัน พร้อมด้วยการจัดทำสรุปสถิติในการให้การรักษาให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดทางการแพทย์ให้กับประเทศไทย

และเพื่อยกระดับศักยภาพของศูนย์กระจายพัสดุ (HUB) ในการรองรับการคัดแยกพัสดุจำนวนมหาศาล ท่ามกลางการออกโปรโมชันต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศ BEST Express ได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบและเครื่องจักรจากเบสท์ (BEST Inc.) บริษัทแม่ มาใช้ภายในศูนย์กระจายพัสดุ BEST Express กรุงเทพฯ โดยมีการนำโปรแกรมและระบบต่าง ๆ มาใช้ อาทิ ระบบการคัดแยกสินค้าอัตโนมัติ ระบบการวัดขนาด และน้ำหนักอัตโนมัติ และการนำเครื่องจักรต่าง ๆ มาช่วยเพิ่มความรวดเร็วของการคัดแยกพัสดุ เช่น 1.) เครื่องสแกนพัสดุความเร็วสูง 2.) เครื่องคำนวณ ตรวจสอบ ขนาดและน้ำหนักของพัสดุประสิทธิภาพสูง 3.) เครื่องคัดแยกพัสดุล้อหมุนอัตโนมัติ และ 4.) เครื่องคัดแยกสายพานข้าม เชื่อมต่อสายพานลำเลียงพัสดุความเร็วสูง ที่จะช่วยทำให้ศูนย์กระจายพัสดุ สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการกระจายพัสดุได้อย่างรวดเร็วและมีศักยภาพสูงขึ้น

นอกจากนี้ เบสท์ ยังได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบ CRM มาใช้ภายในศูนยบริการลูกค้าสัมพันธ์ของ เบสท์ เอ็กซ์เพรส (BEST Contact Center) ซึ่งระบบได้มีการถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยเบสท์ จึงทำให้สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบ CTI (Computer Telephony Integration) ตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์ เมื่อลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาระบบจะทำหน้าที่นำเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าไปจับคู่กับประวัติการใช้บริการของลูกค้าในระบบ นับว่าตอบโจทย์และทำให้มีประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าภายในธุรกิจบริการของ เบสท์ เอ็กซ์เพรส ได้ดียิ่งขึ้น