หัวเว่ยเผยโมเดลการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีรูปแบบใหม่ ในง...

หัวเว่ย (Huawei) ประกาศเปิดตัวโมเดล “ต้นไม้สามต้น” (Three Trees) สำหรับการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีที ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 (Mobile World Congress หรือ MWC 2023) โดยต้นไม้ทั้งสามหมายถึงคณาจารย์และนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต และผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรม โมเดลดังกล่าวเป็นความพยายามของหัวเว่ยในการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีที่มีความสามารถด้านนวัตกรรมและการประยุกต์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีทีที่มีทักษะสูงเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ด้วยเหตุนี้ สหภาพยุโรปได้ประกาศเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลภายในปี 2573 (Digital Compass 2030) ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีที 20 ล้านคน และยังต้องการให้ผู้ใหญ่อย่างน้อย 80% มีทักษะพื้นฐานด้านดิจิทัลภายในปี 2566 ขณะเดียวกัน สมุดปกขาวไชน่า ไอซีที ทาเลนต์ (China ICT Talent) ยังเน้นให้เห็นถึงช่องว่างของความสามารถด้านไอซีทีในประเทศจีน ซึ่งจะทำให้เกิดตำแหน่งงานว่างราว 21.35 ล้านตำแหน่งภายในปี 2578

เพื่อจัดการกับเป้าหมายและความท้าทายเหล่านี้ หัวเว่ยกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรภายใต้โมเดล “ต้นไม้สามต้น” อันได้แก่

อ่านเพิ่ม แวนเทจ (Vantage) โบรกเกอร์ผู้ให้บริการสินทรัพย์หลากหลายประเภทระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้รับเลือกให้เป็น “ผู้ให้บริการซื้อขายที่ยอดเยี่ยมที่สุดประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APAC)” จาก ADVFN International Financial Awards ประจำปี 2565 รางวัลที่พิจารณาโดยคณะกรรมการ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 8 ในปีนี้ เป็นการรับรองและยอมรับผลิตภัณฑ์และบริการที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากทั้งวงการการเงินแบบดั้งเดิมและวงการฟินเทค มาร์ค เดปาลลิแยร์ (Marc Despallieres) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของแวนเทจกล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลนี้จาก ADVFN International Financial Awards ประจำปี 2565 นี่เป็นการพิสูจน์ให้เห็นความพยายามของเราอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน เราจะตั้งใจสร้างนวัตกรรมและสร้างฐานธุรกิจของเราในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป โดยจะจัดหาอีโคซิสเต็มการซื้อขายที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา” “แวนเทจดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมาหลายปีแล้ว แต่ด้วยความซับซ้อนที่เพิ่มพูนตามยุคสมัย ตลอดจนความคาดหวังที่มากขึ้นของลูกค้าของเรา เราตระหนักดีว่าเราจะหยุดพัฒนาไม่ได้” “เราจึงเลือกที่จะทำงานต่อไปในตลาดเกิดใหม่ ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าของเราให้ดีขึ้น จัดหาเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการบริหารที่ราบรื่นเป็นพิเศษ ขยายภูมิภาคการดำเนินงานของเราเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าที่ยังได้รับการบริการไม่เต็มที่ และทำให้การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเราเติบโตขึ้น พร้อม ๆ กับคงค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ระดับต่ำของเราไว้ต่อไป เพื่อสนองตอบความต้องการซื้อขายของลูกค้า” “ผมอยากจะใช้โอกาสนี้ขอบคุณอย่างสุดซึ้งแก่ทีมงานของเราที่ทุ่มเททำงานหนัก และลูกค้าของเราที่ให้การสนับสนุนแวนเทจมาโดยตลอด” รางวัลนี้เป็นการยอมรับครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 ที่แวนเทจได้รับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นับตั้งบริษัททำการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในปี 2564 ก่อนหน้านี้แวนเทจเคยได้รับรางวัลที่งาน Transform Awards Asia ประจำปี 2564 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ให้รางวัลโครงการต่างๆที่ยอมรับความเป็นเลิศและนวัตกรรมในการพัฒนาแบรนด์ ในงาน Transform Awards Asia บริษัทแวนเทจได้รับรางวัล “โครงการพัฒนาแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อสะท้อนพันธกิจ, คุณค่า หรือตำแหน่งที่เปลี่ยนไป” และรางวัล “อัตลักษณ์ทางภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุดในภาคบริการทางการเงิน” เกี่ยวกับแวนเทจ (Vantage) แวนเทจ (Vantage) เป็นโบรกเกอร์ผู้ให้บริการสินทรัพย์หลากหลายประเภทในระดับโลก โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงบริการที่ว่องไวและทรงพลังในการเทรดสัญญา CFD บนฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี และหุ้นต่าง ๆ แวนเทจสั่งสมประสบการณ์ในตลาดมากว่า 10 ปี ปัจจุบันมีพนักงาน/บุคลากรกว่า 1,000 รายในสำนักงานกว่า 30 แห่งทั่วโลก แวนเทจเป็นมากกว่าโบรกเกอร์ โดยให้บริการอีโคซิสเต็มการเทรดที่เชื่อถือได้ รวมถึงแพลตฟอร์มการเทรดที่เร็วและไม่ยุ่งยาก เพื่อให้ลูกค้าคว้าโอกาสจากการเทรดได้อย่างเต็มที่ เราช่วยให้คุณเทรดเพื่อคว้าโอกาสในตลาดได้มากขึ้น เมื่อคุณเทรดได้อย่างชาญฉลาดกว่าเดิม @vantage

สถาบันการศึกษา: หัวเว่ยมีสถาบันการศึกษาด้านไอซีทีกระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งจะนำความรู้และทักษะด้านไอซีทีล่าสุดมามอบให้แก่ผู้สอนและผู้เรียนโดยตรง รวมทั้งส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน
การเรียนรู้ตลอดชีวิต: หัวเว่ยพัฒนาระบบการบ่มเพาะคนเก่งและมาตรฐานการรับรองอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบวิชาชีพเติบโตผ่านการศึกษาเพิ่มเติม
ผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีที: หัวเว่ยให้บริการพัฒนาคนเก่งด้านดิจิทัล โดยมีเป้าหมายในการช่วยให้ผู้นำมีทักษะการจัดการด้านดิจิทัลและความสามารถด้านไอซีที รวมถึงสร้างคุณค่าใหม่ร่วมกันเพื่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ
คุณเหมียว เฟิงชุน (Miao Fengchun) หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์เพื่อการศึกษาขององค์การยูเนสโก (UNESCO) ระบุว่า โครงการ “โรงเรียนแบบเปิดที่ใช้เทคโนโลยีในการสอน” (Technology-Enabled Open Schools) ที่ริเริ่มโดยยูเนสโกและหัวเว่ย มีบทบาทในฐานะผู้นำการช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกาในการสร้างโรงเรียนดิจิทัลแบบเปิดกว้าง โดยมีครูกว่า 900,000 คน และนักเรียนกว่า 15,000 คนในอียิปต์ เอธิโอเปีย และกานา เข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ ทางโครงการยังมีแพลตฟอร์มและทรัพยากรการเรียนรู้ดิจิทัลที่เปิดกว้างสำหรับนักเรียนในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง

ในช่วง 5 ปีข้างหน้า หัวเว่ยตั้งเป้าที่จะฝึกอบรมนักศึกษามากกว่า 1 ล้านคนต่อปี ผ่านความร่วมมือกับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง โดยโครงการต่าง ๆ ของหัวเว่ยมีเป้าหมายเพื่อบ่มเพาะผู้มีความสามารถด้านไอซีทีคุณภาพสูงสำหรับอนาคต เพื่อช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลทั่วโลก

สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ [email protected]

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2014344/image_1.jpg
คำบรรยายภาพ – คุณเหมียว เฟิงชุน ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2014345/image2.jpg
คำบรรยายภาพ – โมเดล “ต้นไม้สามต้น” ของหัวเว่ย

หัวเว่ยเผยโมเดลการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีรูปแบบใหม่ ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส

Related posts: