การสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับเด็กตั้งแต่ช่วงวัยแรกเกิด ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแลสุขภาพที่ดีในระยะยาว การฉีดวัคซีนไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจคุกคามชีวิต แต่ยังช่วยลดโอกาสการแพร่กระจายของโรคในชุมชน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ปกครองหลายคนอาจสงสัยว่า “วัคซีนไหนบ้างที่จำเป็นต้องฉีดให้ลูก?” บทความนี้จะช่วยสรุปแพคเกจวัคซีนเด็กที่เด็กควรได้รับ พร้อมอธิบายเหตุผลอย่างเข้าใจง่าย
แพคเกจวัคซีนเด็กพื้นฐานที่เด็กควรได้รับตามกำหนด
1. วัคซีน BCG (วัณโรค) – ฉีดทันทีหลังคลอด
ป้องกันวัณโรค โดยเฉพาะชนิดที่รุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากวัณโรค พบได้บ่อยในประเทศแถบเอเชียรวมถึงไทย เด็กแรกเกิดควรได้รับการฉีดทันทีในโรงพยาบาล
2. วัคซีนตับอักเสบบี (Hepatitis B)
ฉีด 3 เข็มในช่วงแรกเกิด 1 เดือน และ 6 เดือน ป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งหากติดเชื้อเรื้อรัง อาจนำไปสู่โรคตับแข็งหรือตับอักเสบเรื้อรังในระยะยาว
3. วัคซีน DTP (คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก)
ฉีดตามช่วงอายุ 2, 4, 6 เดือน และกระตุ้นอีก 2 เข็มเมื่ออายุ 1 ปีครึ่ง และ 4-6 ปี ไอกรนเป็นโรคที่อาจทำให้เด็กเล็กมีอาการไอรุนแรงจนหยุดหายใจได้
4. วัคซีนโปลิโอ (OPV หรือ IPV)
ป้องกันโรคโปลิโอซึ่งทำให้เกิดอัมพาตถาวรได้ โดยให้ร่วมกับ DTP ในรูปแบบวัคซีนรวม DTP-IPV และกระตุ้นตอนอายุ 1 ปีครึ่ง และ 4-6 ปี
5. วัคซีน Hib (Haemophilus influenzae type B)
เป็นวัคซีนที่ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อเยื่อหุ้มสมองอักเสบและปอดบวมจากเชื้อฮิบ ปัจจุบันมักรวมอยู่ในวัคซีนรวม 5 หรือ 6 โรค
6. วัคซีนโรต้าไวรัส
เป็นวัคซีนกิน ป้องกันท้องเสียรุนแรงจากโรต้าไวรัสที่อาจทำให้เด็กขาดน้ำจนต้องนอนโรงพยาบาล ให้ช่วงอายุไม่เกิน 6 เดือนตามชนิดวัคซีน
7. วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (Japanese Encephalitis)
แนะนำฉีดในพื้นที่ระบาด เช่น ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือนเป็นต้นไป
8. วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR)
เด็กควรฉีด 2 เข็ม เข็มแรกอายุ 9-12 เดือน และเข็มที่สองเมื่ออายุ 2-6 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันเพียงพอ โดยเฉพาะในเด็กที่ต้องเข้าเรียนในสถานศึกษา
วัคซีนเสริมที่แนะนำเพิ่มเติม
แม้จะไม่อยู่ในสิทธิ์วัคซีนพื้นฐานฟรีทุกตัว แต่วัคซีนเสริมเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในแง่การป้องกันโรคที่อาจทำให้เด็กเจ็บป่วยจนต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล
– วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
ฉีดได้ทุกปีตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะในเด็กเล็กและเด็กที่มีโรคประจำตัว
– วัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส (Pneumococcal Vaccine)
ช่วยลดโอกาสเป็นโรคปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และหูชั้นกลางอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัส โดยเฉพาะในเด็กต่ำกว่า 2 ปี
– วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A)
แพคเกจวัคซีนเด็กสำหรับเด็กที่อายุ 1 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากอาหารและน้ำไม่สะอาด
– วัคซีนอีสุกอีใส (Varicella)
ลดความรุนแรงของโรคอีสุกอีใส และลดการแพร่เชื้อในชุมชนโรงเรียน
วางแผนแพคเกจวัคซีนเด็กให้เหมาะสม เพื่อสุขภาพระยะยาวของลูก
แพคเกจวัคซีนเด็กที่คลินิกและโรงพยาบาลส่วนใหญ่นำเสนอ มักมีตัวเลือกเป็น “วัคซีนตามโปรแกรมพื้นฐาน + วัคซีนเสริม” ผู้ปกครองควรพิจารณาจากความเสี่ยงในพื้นที่ ความพร้อมทางการเงิน และปรึกษากุมารแพทย์เป็นรายกรณี เพื่อให้การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัย
อย่าลืมว่า การป้องกันโรคแต่เนิ่น ๆ ด้วยวัคซีน เป็นการลงทุนด้านสุขภาพที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับลูกน้อย เพราะไม่เพียงแค่ช่วยให้พวกเขาแข็งแรง แต่ยังช่วยให้พ่อแม่อุ่นใจได้มากขึ้นในทุกช่วงวัยของการเติบโต