กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย, 29 พ.ค. 2568 /PRNewswire/ — จีน สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) กำลังเร่งดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและสร้างเสถียรภาพให้กับห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรม ตั้งแต่ฟอรัมเศรษฐกิจจีน-อาเซียน ไปจนถึงฟอรัมเศรษฐกิจอาเซียน-จีน-GCC และงาน China International Supply Chain Expo (CISCE) ครั้งที่ 3 ที่กำลังจะมีขึ้น ความคิดริเริ่มพหุภาคีเหล่านี้กำลังกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ฟอรัมเศรษฐกิจอาเซียน-จีนได้จัดประชุมตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนเกือบ 200 คน Ren Hongbin ประธาน CCPIT เน้นย้ำความสำคัญของข้อตกลงล่าสุดระหว่างจีนและอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมาเลเซีย เพื่อกระชับความร่วมมือผ่านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
ผู้แทนอาเซียนต่างยอมรับอย่างกว้างขวางถึงศักยภาพที่สำคัญของความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียนในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและความร่วมมือทางอุตสาหกรรม มาเลเซียและประเทศอาเซียนอื่น ๆ ได้แสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมการประชุม CISCE ครั้งที่ 3 ที่จะถึงนี้ โดยทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคที่เปิดกว้างและมีเสถียรภาพ
เมื่อเหลือเวลาอีก 50 วันก่อนถึงวันเปิดงาน CISCE ครั้งที่ 3 ได้ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกในฐานะมหกรรมห่วงโซ่อุปทานระดับชาติแห่งแรกของโลก งานครั้งก่อน ๆ สร้างรายได้จากธุรกรรมทางการค้ามากกว่า 300,000 ล้านหยวน โดยคาดว่างานในปีนี้จะดึงดูดบริษัทระดับโลกได้หลายร้อยแห่ง นอกจากนี้ ยังมี “โซนห่วงโซ่นวัตกรรม” ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งจะจัดแสดงทรัพย์สินทางปัญญามูลค่าสูงและเทคโนโลยีเกิดใหม่
Michael Hart ประธานหอการค้าอเมริกันในจีน เรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐฯ มีส่วนร่วมเมื่อไม่นานนี้ โดยเน้นย้ำคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ของ CISCE ในภูมิทัศน์การค้าโลกที่แตกแยก ประธาน Ren กล่าวถึงมหกรรมครั้งนี้ว่าเป็น “โอเอซิสแห่งความร่วมมือในโลกที่ไม่แน่นอน” ออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงธุรกิจทั่วโลกผ่านโซลูชันเฉพาะภาคส่วนแบบบูรณาการ
การจัดงานในปี 2568 จะยังคงมุ่งเน้นหลักหกประการ พร้อมทั้งแนะนำโมเดลใหม่เพื่อรองรับความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
ฟอรัมเศรษฐกิจอาเซียน-จีน-GCC ครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคมที่กัวลาลัมเปอร์ ได้ส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคให้ก้าวหน้า Ren ได้นำคณะผู้บริหารกว่า 30 คนจากภาคส่วนพลังงาน ปัญญาประดิษฐ์ และโครงสร้างพื้นฐานของจีน เข้าร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่อาเซียนและ GCC ส่งผลให้เกิดบันทึกความเข้าใจความร่วมมือข้ามพรมแดนหลายฉบับ
ตั้งแต่ไอศกรีมคาร์บอนต่ำไปจนถึงเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงานด้วยอากาศอัดอันล้ำสมัย CISCE ได้สร้างชื่อให้กับตนเองในฐานะฐานการผลิตนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ระดับโลก ขณะที่มีการปกป้องทางการค้ามากขึ้น CISCE จึงน่าจับตามองในฐานะสถานที่สำหรับความร่วมมือที่โปร่งใสและอิงตามกฎเกณฑ์ และอยู่ในตำแหน่งที่จะมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนพลวัตห่วงโซ่อุปทานระหว่างภูมิภาค
View original content to download multimedia: Read More