รายงานผลการดำเนินงานล่าสุดของ ECW ชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์ด้านการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กและเยาวชนในสภาวะฉุกเฉินและวิกฤตยืดเยื้อ พร้อมเรียกร้องการสนับสนุนเงินทุนอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อยอดความสำเร็จ
นิวยอร์ก, 19 กันยายน 2568 /PRNewswire/ — Education Cannot Wait (ECW) กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในสภาวะฉุกเฉิน และวิกฤตยืดเยื้อของ United Nations ได้เปิดตัวรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2567:Investing in Futures ซึ่งเผยให้เห็นว่า ECW และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ได้มอบการศึกษาที่มีคุณภาพและครอบคลุมให้แก่เด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตแล้วกว่า 8.3 ล้านคน ใน 33 ประเทศทั่วโลกในช่วงครึ่งทางของแผนยุทธศาสตร์ปี 2566-2569 โดยส่งผลให้ยอดรวมเด็กหญิงและเด็กชายที่ได้รับความช่วยเหลือมีจำนวนสูงถึง 14 ล้านคน นับตั้งแต่ที่ก่อตั้ง ECW
Despite progress, education remains one of the most underfunded sectors in humanitarian responses. In 2024, only 30% of education funding requirements were met in humanitarian appeals, despite education representing just 5.4% of total Global Humanitarian Overview requirements.
กองทุนนี้ยังได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเสมอภาคและการมีส่วนร่วม โดยมีผู้รับประโยชน์กว่า 51% เป็นเด็กผู้หญิง และ 43% เป็นผู้ลี้ภัยหรือผู้พลัดถิ่นในประเทศ รายงานฉบับนี้ยังแสดงให้เห็นว่าการลงทุนของ ECW กำลังขับเคลื่อนการพัฒนาที่วัดผลได้จริง: มีเด็กจำนวนมากขึ้นที่ได้เข้าเรียน อยู่ในระบบการศึกษาต่อ และได้เรียนรู้ทักษะทั้งด้านวิชาการและอารมณ์สังคม นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในบรรทัดฐานทางเพศยังมีส่วนช่วยให้เด็กๆ สามารถเข้าถึง และมีส่วนร่วมทางการศึกษาได้อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้นด้วย
“ความก้าวหน้านี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอันโดดเด่นของโมเดลกลยุทธ์ของ ECW และความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกของเรา นี่ไม่ใช่แค่การประสานงานเท่านั้น แต่เป็นความมุ่งมั่นร่วมกันที่ถูกแปรเปลี่ยนไปสู่การลงมือทำร่วมกัน” Sigrid Kaag ประธานของ ECW High-Level Steering Group กล่าว
รายงานฉบับนี้รวบรวมความพยายามร่วมกันของพันธมิตรกว่า 100 องค์กร ซึ่งรวมถึงรัฐบาลประเทศเจ้าบ้าน หน่วยงานของ UN องค์กรภาคประชาสังคมทั้งในระดับท้องถิ่นและระหว่างประเทศ มูลนิธิเพื่อการกุศล และผู้นำภาคเอกชนที่ได้ร่วมมือกันในปี 2567 เพื่อจัดการศึกษาในพื้นที่ที่เผชิญกับวิกฤตการณ์ที่ซับซ้อนที่สุดในโลก
รูปแบบการทำงานของ ECW ในระดับโครงสร้างที่ให้ความสำคัญไปที่การตอบสนองอย่างรวดเร็ว และการวางโปรแกรมระยะยาวหลายปี ได้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการประสานงานและความร่วมมือระหว่างภาคส่วน มนุษยธรรม-การพัฒนา-สันติภาพอย่างต่อเนื่องผ่านการเพิ่มการสนับสนุนให้กับพันธมิตรในท้องถิ่น และส่งเสริมความเป็นเจ้าของในระดับชาติ
ในปี 2567 งบประมาณ 39% จาก 202 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ ECW จัดสรรได้ถูกส่งไปยังประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่ม “วิกฤตที่ถูกลืม” เช่น บังกลาเทศ บูร์กินาฟาโซ แคเมอรูน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เฮติ เลบานอน มาลี เมียนมา ไนจีเรีย และซูดานใต้ ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของกองทุนฯ ที่จะเข้าถึงเด็กๆ ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ถูกมองข้าม และขาดแคลนงบประมาณมากที่สุด
รายงานยังชี้ให้เห็นว่า ECW และพันธมิตรได้หันมาให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยงระหว่างวิกฤตสภาพภูมิอากาศและวิกฤตการศึกษามากขึ้น โดย 41% ของเด็กที่ได้รับความช่วยเหลือในช่วงปี 2566–2567 หรือคิดเป็นจำนวน 3.4 ล้านคน ได้เข้าร่วมในโครงการที่สนับสนุนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแล้ว
แม้จะประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง แต่รายงานก็ได้เตือนถึงช่องว่างด้านเงินทุนที่กำลังขยายตัวขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2566 ECW ระดมทุนได้มากถึง 934 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับแผนยุทธศาสตร์ปี 2566–2569 ซึ่งคิดเป็นประมาณสองในสามของยอดเป้าหมาย ทั้งนี้ ยังคงมีเงินบริจาคที่ได้รับการยืนยันแล้วแต่ยังไม่ได้รับอีกถึง 113 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะเดียวกัน ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรง การถูกบังคับให้พลัดถิ่น และภัยพิบัติจากสภาพภูมิอากาศกำลังผลักดันให้ความต้องการด้านมนุษยธรรมพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ระบบการศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตกำลังตกอยู่ในภาวะเปราะบาง โดยคาดว่ามีเด็กและเยาวชนกว่า 234 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากสภาะวิกฤติ ซึ่งต้องการความช่วยเหลือด้านการศึกษาอย่างเร่งด่วน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 18% เมื่อเทียบกับสามปีที่แล้ว
ทว่าการศึกษายังคงเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับงบประมาณน้อยที่สุดในการตอบสนองด้านมนุษยธรรม ในปี 2567 งบประมาณด้านการศึกษาได้รับเงินทุนเพียง 30% จากเป้าหมายการระดมทุนด้านมนุษยธรรม ทั้งที่งบด้านการศึกษาคิดเป็นเพียง 5.4% ของความต้องการทั้งหมดในภาพรวมด้านมนุษยธรรมทั่วโลกเท่านั้น
“การศึกษาคือความหวังเดียวที่ดีที่สุดของเราสำหรับเด็กๆ ที่ต้องทนทุกข์จากวิกฤตการณ์ ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้เราสามารถทำงานต่อไปและปกป้องผลลัพธ์ที่ได้เราได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาแล้ว เราจึงขอเรียกร้องให้มีการสนับสนุนทางการเงินครั้งใหม่จากพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนของเรา และเรายังคาดหวังที่จะเห็นพันธสัญญาที่ขยายวงกว้างขึ้นผ่านความร่วมมือเชิงนวัตกรรมใหม่ๆ” Kaag กล่าว
ECW ยังต้องการเงินทุนเพิ่มเติมอีก 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการระดมทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2569 การสนับสนุนนี้จะช่วยให้ ECW และพันธมิตรสามารถมอบการศึกษาที่มีคุณภาพให้แก่เด็ก 20 ล้านคนที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ซึ่งหากปราศจากการดำเนินการอย่างเด็ดขาดแล้ว เด็กหลายล้านคนก็ล้วนเสี่ยงที่จะถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลัง เพราะแม้จะมีแนวทางแก้ไข แต่ก็มีเงินทุนไม่เพียงพอ
ไฮไลท์ผลลัพธ์สำคัญ
- เข้าถึงเด็ก 14 ล้านคนนับตั้งแต่ก่อตั้ง โดย 8.3 ล้านคนได้รับความช่วยเหลือในช่วงสองปีแรกของแผนยุทธศาสตร์ของ ECW ในปี 2566-2567
- เด็กที่เข้าถึงการศึกษากว่า 51% เป็นเด็กผู้หญิง และกว่า 40% เป็นผู้ถูกบังคับให้พลัดถิ่นโดย ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง ECW
- 96% ของโครงการรายงานว่า มีการมีส่วนร่วมทางการศึกษาเพิ่มขึ้น โดย 74% แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศในช่วงปี 2566-2567
- โครงการระยะยาวหลายปีได้แสดงให้เห็นว่า 88% มีรายงานผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านเขียนและ/หรือคณิตศาสตร์ที่ดีขึ้น และ 78% มีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคมในปี 2566-2567
- เข้าถึงเด็กพิการกว่า 155,000 คน ในช่วงปี 2566-2567
- 6% ของเด็กที่โครงการเข้าถึงอยู่ในวัยก่อนประถมศึกษา และ 20% อยู่ในวัยมัธยมศึกษาในช่วงปี 2566-2567 โดยมีความก้าวหน้าที่เห็นได้ชัดในภาคส่วนการศึกษาระดับมัธยมศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิง
- เกือบหนึ่งในสาม (29%) ของเงินทุนได้ถูกจัดสรรหรือวางแผนที่จะโอนไปยังองค์กรระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งอยู่ในโครงการที่ได้รับอนุมัติในปี 2567
- 41% ของเด็กที่โครงการเข้าถึงในช่วงปี 2566-2567 หรือ 3.4 ล้านคน ได้รับการช่วยเหลือจากโครงการที่สนับสนุนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็ม และข้อมูลสรุปโครงการ
- เข้าถึง ฟุตเทจเสริม ภาพถ่ายความละเอียดสูง และเรื่องราวผลกระทบ
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2775991/Education_Cannot_Wait.jpg?p=medium600
View original content to download multimedia: Read More