Skip to content
Home » PR Newswire » Gates Foundation ประกาศความมุ่งมั่นครั้งใหม่ พร้อมมุ่งช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่เผชิญวิกฤตสภาพอากาศสุดขั้ว

Gates Foundation ประกาศความมุ่งมั่นครั้งใหม่ พร้อมมุ่งช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่เผชิญวิกฤตสภาพอากาศสุดขั้ว

มูลนิธิได้ทุ่มงบ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ขยายการเข้าถึงเครื่องมือที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพื่อช่วยเกษตรกรในภูมิภาคที่ยากจนที่สุดของโลกให้สามารถปรับตัว และสร้างภูมิต้านทานต่อภัยแล้ง น้ำท่วม และคลื่นความร้อน

เบเล็ง บราซิล, 10 พฤศจิกายน 2568 /PRNewswire/ — Gates Foundation ประกาศความมุ่งมั่นใหม่ในวันนี้เพื่อผลักดันการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยเพื่อสร้างภูมิต้านทานต่อโลกที่กำลังร้อนขึ้น และปกป้องความสำเร็จในการต่อสู้กับความยากจนที่ได้มาอย่างยากลำบาก

มูลนิธิได้ประกาศการลงทุนมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดระยะเวลา 4 ปี ในระหว่างการประชุม COP30 ณ เมืองเบเล็ง ประเทศบราซิล ซึ่งเหล่าผู้นำต่างเน้นย้ำถึงการปรับตัวที่ขับเคลื่อนจากระดับท้องถิ่น การลงทุนครั้งนี้จะช่วยขยายการเข้าถึงนวัตกรรมเพื่อช่วยให้เกษตรกรทั่วภูมิภาคแอฟริกาใต้สะฮารา และเอเชียใต้สามารถปรับตัวต่อสภาพอากาศสุดขั้วในภูมิภาคเหล่านี้ได้ เพราะความมั่นคงทางอาหารและการดำรงชีวิตขึ้นในภูมิภาคเหล่านี้ล้วนขึ้นอยู่กับการเกษตร ด้วยเหตุนี้เอง เกษตรกรรายย่อยและชุมชนที่พวกเขาหล่อเลี้ยงจึงเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุดต่อภัยแล้ง น้ำท่วม และอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทว่ากลับมีงบประมาณด้านสภาพภูมิอากาศทั่วโลกไม่ถึง 1% ที่มุ่งเป้าไปที่การจัดการภัยคุกคามที่กำลังเพิ่มขึ้นต่อระบบอาหารที่สำคัญเหล่านี้

“เกษตรกรรายย่อยกำลังผลิตอาหารเลี้ยงชุมชนของพวกเขาภายใต้เงื่อนไขที่ยากลำบากที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้” Bill Gates ประธานร่วมของ Gates Foundation กล่าว “เรากำลังสนับสนุนความเฉลียวฉลาดของพวกเขาด้วยเครื่องมือและทรัพยากรที่จะช่วยให้พวกเขาเติบโต เพราะการลงทุนในความสามารถในการปรับตัวของพวกเขาคือ หนึ่งในสิ่งที่ชาญฉลาดและสร้างผลกระทบได้มากที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อผู้คนและโลกใบนี้”

ความมุ่งมั่นนี้ได้สนับสนุนวิสัยทัศน์ของ Bill Gates ที่ระบุไว้ในบันทึกช่วยจำฉบับล่าสุดสำหรับการประชุม COP30 ของเขา เกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญของการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศเพื่อให้เกิดผลกระทบสูงสุดต่อมนุษย์ และขับเคลื่อนเป้าหมายของมูลนิธิในการช่วยเหลือผู้คนหลายล้านคนให้หลุดพ้นจากความยากจนภายในปี 2588 

เติมเต็มช่องว่างด้านเงินทุนระดับโลก

เกษตรกรในประเทศรายได้น้อยผลิตอาหารมากถึงหนึ่งในสามของโลก แต่กลับต้องเผชิญกับภัยคุกคามด้านสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหากปราศจากการลงทุนเพื่อการปรับตัวที่มากขึ้นแล้ว ผลกระทบที่รุนแรงเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงทางอาหาร และทำให้ความก้าวหน้าในการต่อสู้กับความยากจนที่ได้มาอย่างยากลำบากต้องถดถอยลงไปมาก

งานวิจัยของ World Bank แสดงให้เห็นว่าการลงทุนเพื่อการปรับตัวอย่างตรงจุดสามารถเพิ่ม GDP โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็กได้สูงถึง 15 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2593 โดย World Resources Institute ได้ประเมินว่าทุกๆ ดอลลาร์ที่ลงทุนในการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ จะสร้างผลประโยชน์ทางสังคม และเศรษฐกิจมากกว่า 10 ดอลลาร์ภายในหนึ่งทศวรรษ

“การปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศไม่ใช่แค่ประเด็นด้านการพัฒนา แต่มันคือความจำเป็นเร่งด่วนทางเศรษฐกิจและศีลธรรม” Mark Suzman ซีอีโอของ Gates Foundation “ความมุ่งมั่นใหม่เหล่านี้ได้ต่อยอดมาจากการสนับสนุนของเราต่อเกษตรกรในแอฟริกา และเอเชียใต้ที่กำลังสร้างนวัตกรรมเพื่อรับมือกับสภาพอากาศสุดขั้วอยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่สามารถทำได้โดยลำพัง รัฐบาลและภาคเอกชนต้องทำงานร่วมกันเพื่อจัดลำดับความสำคัญของการปรับตัวควบคู่ไปกับการบรรเทาผลกระทบ”

การปรับขยายนวัตกรรมที่นำโดยเกษตรกร

เงินทุนที่จำเป็นในการช่วยเกษตรกรปรับตัวกลับสวนทาง ในขณะที่ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศยังคงทวีความรุนแรงขึ้น รายงานสถานการณ์ความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการของ UN ปี 2568 ได้ระบุว่าแอฟริกาเป็นเพียงภูมิภาคเดียวที่มีความหิวโหย และภาวะทุพโภชนาการเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ได้ออกมาเตือนว่า หากไม่มีการปรับตัวอย่างเร่งด่วน ผลผลิตทางการเกษตรในบางพื้นที่ของแอฟริกาอาจลดลงถึง 20% ภายในปี 2593

การลงทุนใหม่ของมูลนิธิจะช่วยขยายนวัตกรรมที่นำโดยเกษตรกรและมีหลักฐานเชิงประจักษ์รองรับ ซึ่งจะช่วยยกระดับการดำรงชีวิตในชนบทและระบบอาหาร ท่ามกลางภัยคุกคามด้านสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มขึ้น

การลงทุนนี้จะขยับขยายเทคโนโลยี และแนวทางที่แสดงให้เห็นผลลัพธ์แล้ว ได้แก่:

  • บริการให้คำปรึกษาดิจิทัล: แอปพลิเคชันมือถือ SMS และแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ส่งมอบข้อมูลที่ทันท่วงที และปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลเพื่อช่วยเกษตรกรในการตัดสินใจเพาะปลูกอย่างมีข้อมูล และบริหารจัดการความเสี่ยงได้ รวมถึงการสนับสนุนโครงการ AIM for Scale ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเข้าถึงเกษตรกร 100 ล้านคนทั่วแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา ภายในปี 2573
  • พืชผลและปศุสัตว์ที่ทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ: สายพันธุ์ที่ทนทานต่อภัยแล้ง ความร้อน และศัตรูพืชอุบัติใหม่ พร้อมทั้งเพิ่มผลผลิตและคุณค่าทางโภชนาการ
  • นวัตกรรมด้านสุขภาพดิน: แนวทางที่ฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรม เพิ่มผลผลิต และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งได้รับการสนับสนุนผ่านความร่วมมือมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์กับมูลนิธิ Novo Nordisk เพื่อพัฒนางานวิจัยด้านปฐพีวิทยา

ความร่วมมือที่ขับเคลื่อนผลกระทบระดับโลก

ความมุ่งมั่นใหม่นี้ได้ต่อยอดมาจากความร่วมมือที่ได้ขยับขยาย หรือริเริ่มขึ้นผ่านคำมั่นสัญญาของมูลนิธิในงานประชุม COP27 และกำลังเข้าถึงเกษตรกรหลายล้านคนแล้ว ตัวอย่างเช่น:

  • AIM for Scale: ความร่วมมือระดับโลกนี้ได้เปิดตัวขึ้นในปี 2566 และได้ส่งข้อมูลการพยากรณ์อากาศผ่าน SMS โดยใช้ AI ไปยังเกษตรกรเกือบ 40 ล้านคนใน 13 รัฐของอินเดีย ในช่วงฤดูมรสุมปี 2568 ทั้งยังช่วยปกป้องพื้นที่เพาะปลูกหลายล้านเอเคอร์อีกด้วย
  • TomorrowNow และ KALRO: TomorrowNow ได้ร่วมมือกับ Kenya Agricultural and Livestock Research Organization (KALRO) เพื่อให้บริการแจ้งเตือนสภาพอากาศแบบระบุพื้นที่ได้อย่างแม่นยำแก่เกษตรกรชาวเคนยามากกว่า 5 ล้านคน ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดความเสียหายของพืชผล พร้อมทั้งกำลังขยายผลไปยังแทนซาเนีย มาลาวี และแซมเบีย

Gates Foundation กำลังทำงานร่วมกับนักวิจัยท้องถิ่น รัฐบาล และพันธมิตรภาคเอกชนเพื่อขยับขยายความพยายามดังกล่าว สร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจในชนบท และระบบอาหารในระยะยาว

“เราได้เห็นถึงความเป็นไปได้ เมื่อเกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงเครื่องมือและทรัพยากรที่เหมาะสม และพวกเขาก็ปรับตัวได้เร็วกว่าใคร” Wanjeri Mbugua ซีอีโอของ TomorrowNow กล่าว “การลงทุนที่ถูกต้อง และพันธมิตรที่แข็งแกร่งจะช่วยให้เราสามารถส่งมอบโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอันทรงพลังถึงมือเกษตรกรโดยตรง เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล และเสริมสร้างความยืดหยุ่นได้ด้วยตนเอง”

ความร่วมมือในงานประชุม COP30

การลงทุนนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันระดับโลก ซึ่งนำโดยผู้นำแอฟริกาและประธาน COP30 อย่างบราซิล ในการนำประเด็นเรื่องอาหาร การดำรงชีวิต และสุขภาพ มาเป็นศูนย์กลางของการวางแผนการปรับตัว นอกจากนี้ ประสบการณ์ของบราซิลในการเชื่อมโยงโครงการทางสังคมเข้ากับนวัตกรรมการเกษตรที่ยั่งยืนยังแสดงให้เห็นว่า การปรับตัวอย่างครอบคลุมสามารถขับเคลื่อนการเติบโตที่เท่าเทียมได้อย่างไร

มูลนิธิฯ จะร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน Agricultural Innovation Showcase ที่ COP30 ร่วมกับ Ministry of Agriculture and Livestock ของบราซิล, Embrapa, AGRA, AIM for Scale, CGIAR, Chinese Academy of Agricultural Sciences (CAAS), Forum for Agricultural Research in Africa (FARA) และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยจะเป็นทั้งงานประชุมระดับสูงในวันที่ 10 พฤศจิกายน และงานจัดแสดง ซึ่งจะจัดแสดงโซลูชันสภาพภูมิอากาศที่ชาญฉลาดในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเกษตรกร และหลายโซลูชันยังได้รับการออกแบบโดยเกษตรกรเองอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.embrapa.br/en/cop30/agrizone

เกี่ยวกับ Gates Foundation 

Gates Foundation ทำงานโดยยึดมั่นในความเชื่อที่ว่าทุกชีวิตมีคุณค่าเท่าเทียมกันเพื่อช่วยให้ทุกคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดี และมีประสิทธิผล โดยเราทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างแนวทางแก้ไขที่สร้างผลกระทบในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้ผู้คนสามารถกำหนดอนาคตของตนเอง และบรรลุศักยภาพสูงสุดของตนได้ นอกจากนี้ ในสหรัฐอเมริกา เรายังมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจว่าทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีทรัพยากรน้อยที่สุด สามารถเข้าถึงโอกาสที่จำเป็นเพื่อประสบความสำเร็จในโรงเรียนและในชีวิตได้ มูลนิธิมีสำนักงานใหญ่ในซีแอตเทิล วอชิงตัน นำโดยซีอีโอ Mark Suzman ภายใต้การกำกับดูแลของ Bill Gates และคณะกรรมการบริหารของเรา 

สื่อมวลชน โปรดติดต่อ: [email protected]

 

 

View original content to download multimedia: Read More