Skip to content
Home » PR Newswire » อุตสาหกรรมขายตรงยังคงทรงตัวในปี 2567 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจทั่วโลก ตามรายงาน STATS ของสมาพันธ์การขายตรงโลก

อุตสาหกรรมขายตรงยังคงทรงตัวในปี 2567 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจทั่วโลก ตามรายงาน STATS ของสมาพันธ์การขายตรงโลก

สมาพันธ์การขายตรงโลกเผยแพร่ข้อมูลประจำปีที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้ที่สุดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทั่วโลก ซึ่งชี้ให้เห็นถึงสัญญาณการทรงตัว

วอชิงตัน, 5 ธันวาคม 2568 /PRNewswire/ — สมาพันธ์การขายตรงโลก (World Federation of Direct Selling Associations: WFDSA) ซึ่งเป็นสมาคมการค้าระดับโลกที่เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมการขายตรงตลอดระยะเวลา 47 ปี ได้เผยแพร่รายงาน STATS ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพและศักยภาพการเติบโตทั่วโลก โดยรายงานระบุว่า ยอดขายปลีกทั่วโลกของธุรกิจขายตรงอยู่ที่ประมาณ 164,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 675 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับยอดขายช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดทั่วโลก โดยตลาด 45% ที่อยู่ในการศึกษาแสดงให้เห็นถึงการเติบโตเพิ่มขึ้น จำนวนตัวแทนอิสระก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้ว เป็น 104.3 ล้านคน โดย 72.1% ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง

“เราภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการมากกว่า 100 ล้านคน และช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้แก่ครอบครัวของพวกเขา ตลอดจนมีส่วนร่วมสร้างประโยชน์และพัฒนาประเทศที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ” Roger Barnett ประธาน WFDSA และซีอีโอของ Shaklee Corporation กล่าว “สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดที่ครองความเป็นผู้นำของโลก แต่เราก็เห็นการเติบโตในตลาดสำคัญ ๆ เช่น บราซิล อินเดีย และจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน”

ภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิกยังคงเป็นภูมิภาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อวัดตามส่วนแบ่งตลาด โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากผู้เล่นหน้าใหม่ เช่น มาเลเซีย แต่ทวีปอเมริกามีการเติบโตมากที่สุดในปี 2567 นอกจากนี้ จำนวน “ตลาดที่มีมูลค่าระดับพันล้านดอลลาร์” ในปี 2567 ยังคงที่อยู่ที่ 21 แห่ง รายงาน STATS ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรศาสตร์ในกลุ่มผู้ประกอบการอิสระและหมวดหมู่สินค้า สินค้ากลุ่มสุขภาพยังคงครองตำแหน่งผู้นำของอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและการดูแลส่วนบุคคล รวมถึงแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามของเกาหลี (K-beauty) ด้วย 

“ด้วยต้นทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างต่ำ การสนับสนุนจากชุมชนที่เข้มแข็ง และผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง การขายตรงจึงเป็นเส้นทางที่มีความยืดหยุ่นและน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการทั่วโลก โดยเฉพาะผู้หญิง และปัจจุบันก็มีผู้ชายจำนวนมากขึ้นเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจนี้เช่นกัน” Shaila Manyam ผู้อำนวยการบริหารของ WFDSA กล่าว

การศึกษานี้เป็นชุดข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้ที่สุดของอุตสาหกรรมที่มาจากตลาด 55 แห่งทั่วโลก และยังคาดการณ์ถึงปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในปี 2568 ซึ่งรวมถึงผลกระทบของภาษีศุลกากรและการค้าระหว่างประเทศ เทคโนโลยี และความสนใจที่เพิ่มขึ้นในด้านการเป็นผู้ประกอบการ ทั้งนี้ สามารถชมรายงาน STATS ได้ที่ http://www.wfdsa.org/global-statistics

ประเด็นสำคัญโดยย่อ

  • ยอดขายปลีกทั่วโลกปี 2567: 163,900 ล้านดอลลาร์ (ทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2566)
     
  • ตลาด 10 อันดับแรก:
  1. สหรัฐอเมริกา
  2. เยอรมนี
  3. จีนแผ่นดินใหญ่
  4. เกาหลี
  5. มาเลเซีย
  6. ญี่ปุ่น
  7. บราซิล
  8. ฝรั่งเศส
  9. ภูมิภาคไต้หวัน
  10. อินเดีย
  • ส่วนแบ่ง: มีตลาด 21 แห่งที่ทำยอดขายได้ตั้งแต่ 1 พันล้านดอลลาร์ขึ้นไป คิดเป็น 92% ของยอดขายทั่วโลก
     
  • ภาคส่วนหลัก: สินค้ากลุ่มสุขภาพ เครื่องสำอางและการดูแลส่วนบุคคล สินค้าอุปโภคในครัวเรือนและสินค้าคงทน
     
  • ผู้ประกอบการอิสระ: 104.3 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 0.1%); โดย 72.1% เป็นผู้หญิง

ติดต่อ:
Maureen Paniagua
ผู้อำนวยการฝ่ายสมาชิก
[email protected]

เกี่ยวกับ WFDSA
สมาพันธ์การขายตรงโลก (World Federation of Direct Selling Associations: WFDSA) เป็นสมาคมการค้าที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนระดับโลกของอุตสาหกรรมการขายตรง โดยยึดถือมาตรฐานสูงสุดด้านจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ ผลักดันและปกป้องผลประโยชน์ของอุตสาหกรรม และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงสมาคมขายตรงในประเทศต่าง ๆ กว่า 55 แห่ง พร้อมทั้งบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกให้มาร่วมมือกัน WFDSA ก่อตั้งขึ้นในปี 2521 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลก อีกทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อถือได้สำหรับอุตสาหกรรมการขายตรงและเกี่ยวกับการขายตรงอย่างครอบคลุม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WFDSA ได้ที่ www.wfdsa.org

โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2838693/wfdsa_logo_01_Logo.jpg?p=medium600

View original content to download multimedia: Read More