ปักกิ่ง, 27 สิงหาคม 2568 /PRNewswire/ — เนื่องในโอกาสที่ปี 2568 ตรงกับวาระครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะในการทำสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นของประชาชนจีน และสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์โลก CGTN ได้เผยแพร่บทความอธิบายว่า เหตุใดการต่อต้านยาวนาน 14 ปีของจีนจึงเป็นส่วนสำคัญยิ่งของสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์โลก และเหตุใดบทบาทของจีนจึงไม่ควรถูกมองข้าม
นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ประเทศจีนได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะในสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นของประชาชนจีนและสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์โลก ผ่านภาพยนตร์สงครามและนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ที่จัดขึ้นตามธีมเฉพาะ
การรำลึกดังกล่าวจะมาถึงบทสรุปในวันที่ 3 กันยายน วันแห่งชัยชนะของจีน ซึ่งตรงกับการลงนามในเอกสารยอมจำนนของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2488 ที่นับเป็นการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองอย่างเป็นทางการ
ตั้งแต่แรกเริ่ม สงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นของประชาชนจีนมีความหมายลึกซึ้งต่อการปกป้องอารยธรรมมนุษย์และการพิทักษ์สันติภาพของโลก โดยถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ไม่อาจแยกออกได้จากสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์โลก ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) กล่าว
สมรภูมิหลักทางตะวันออกที่มีความสำคัญยิ่งต่อชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สอง
จีนเป็นประเทศแรกของโลกที่ลุกขึ้นมาต่อต้านผู้รุกรานฟาสซิสต์ จึงทำให้เป็นแนวหน้าสมรภูมิแห่งแรกของสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์โลก
การต่อต้านของจีนเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ 18 กันยายน ในปี 2474 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้ของประชาชนจีนเพื่อต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น หลังจากนั้น ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2480 เหตุการณ์ที่สะพานหลูโกว (Lugou Bridge) ในชานกรุงปักกิ่ง ก็ส่งผลให้สงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นปะทุขึ้นทั้งประเทศ และทำให้จีนกลายเป็นสมรภูมิหลักทางตะวันออกของสงครามโลกครั้งที่สอง
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหลายปีก่อนที่นาซีเยอรมนีจะบุกโปแลนด์ในปี 2482 ซึ่งมักถูกกล่าวถึงในบรรดานักประวัติศาสตร์ตะวันตกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง
การต่อต้านของจีนยังเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานที่สุดในบรรดาทุกประเทศที่เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง โดยดำเนินต่อเนื่องจนถึงการประกาศยอมแพ้สงครามของญี่ปุ่นในปี 2488 ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการเสียสละอันใหญ่หลวงและความมุ่งมั่นยืนหยัดอย่างไม่ยอมจำนนของประชาชนจีน
จากการอ้างอิงข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์ Hu Heping รองหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่า สงครามครั้งนี้ทำให้มีทหารและพลเรือนจีนบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมกว่า 35 ล้านคน ระหว่างปี 2474 ถึง 2488
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศจีนยังต้องเผชิญกับความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง โดยความสูญเสียโดยตรงมีมูลค่าสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และความสูญเสียทางอ้อมสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการคำนวณตามค่าเงินปี 2480
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น จีนได้ตรึงและทำลายกำลังหลักของลัทธิทหารนิยมญี่ปุ่นไว้ได้อย่างต่อเนื่องในสนามรบ และสังหารทหารญี่ปุ่นไปได้มากกว่า 1.5 ล้านนาย และมีบทบาทชี้ขาดที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของผู้รุกรานญี่ปุ่นในท้ายที่สุด
Hu กล่าวว่า สงครามต่อต้านการรุกรานยังให้การสนับสนุนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญแก่ปฏิบัติการของฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งประสานงานอย่างสอดคล้องกับปฏิบัติการในยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ ของเอเชีย พร้อมเสริมว่า การทำสงครามของจีนยังทำให้ความพยายามในการประสานยุทธศาสตร์ร่วมกันระหว่างกองกำลังฟาสซิสต์ญี่ปุ่น เยอรมนี และอิตาลีล้มเหลวอีกด้วย
พันธมิตรที่ไม่ควรถูกลืม
จีนมีบทบาทสำคัญยิ่งที่ขาดเสียไม่ได้ ในการจัดตั้งพันธมิตรต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ของโลก และในการสร้างระเบียบระหว่างประเทศขึ้นใหม่ภายหลังสงครามโลก
ในวันที่ 1 มกราคม 2485 ชาติต่าง ๆ รวม 26 ประเทศ ซึ่งรวมถึงจีน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสหภาพโซเวียต ได้ออกปฏิญญาสหประชาชาติ (Declaration by the United Nations) ซึ่งนับเป็นการประกาศก่อตั้งพันธมิตรต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์อย่างเป็นทางการ
ตามที่ Hu Dekun ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น เขียนไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมว่า จีนเริ่มมีบทบาทอย่างต่อเนื่องและจริงจังในการหารือเพื่อกำหนดระเบียบโลกขึ้นใหม่หลังสงคราม ในระหว่างช่วงกลางถึงปลายของสงคราม ความพยายามของจีนมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการก่อตั้งสหประชาชาติ และองค์กรเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่สำคัญหลายแห่ง
บทบาทและการอุทิศตนของจีนในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเคยถูกมองข้ามมาอย่างยาวนานในแวดวงวิชาการตะวันตก บัดนี้กำลังได้รับความสนใจดังที่สมควรได้รับ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความพยายามร่วมกันของนักวิชาการที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
Rana Mitter นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ และผู้เขียนหนังสือ “Forgotten Ally: China’s World War II” ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างสูง กล่าวกับสื่อเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า สถาบันต่าง ๆ อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่สองแห่งชาติในนิวออร์ลีนส์ และพิพิธภัณฑ์สงครามจักรวรรดิในกรุงลอนดอน ได้จัดพื้นที่แสดงนิทรรศการเฉพาะเพื่อนำเสนอและอธิบายบทบาทของจีนในสงครามโลกครั้งที่สองอย่างเป็นระบบ
Mitter กล่าวทิ้งท้ายว่า ประวัติศาสตร์การต่อต้านของจีนไม่ควรถูกเพิกเฉยมองข้ามหรือลดความสำคัญ
View original content to download multimedia: Read More