 |
ดุยส์บวร์ก, เยอรมนี, 19 กันยายน 2568 /PRNewswire/ — ในวันนี้ Factor2 Energy บริษัทจากเมืองดุยส์บวร์ก (Duisburg) ประเทศเยอรมนี ซึ่งพัฒนาแนวทางใหม่ในการใช้ประโยชน์จากพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประกาศความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Seed โดยได้รับเงินทุนร่วมลงทุน (Venture Capital) มูลค่า 9.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การระดมทุนครั้งนี้นำโดย At One Ventures และมีผู้ร่วมลงทุนเพิ่มเติม ได้แก่ High-Tech Gründerfonds (HTGF), Gründerfonds Ruhr, Verve Ventures และ Siemens Energy Ventures
Factor2 Energy จะนำเงินทุนรอบ Seed ไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อาศัย CO₂ และสร้างโรงไฟฟ้านำร่องเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการขยายกำลังผลิต
ทั้งนี้ Factor2 Energy นำโดย Michael Wechsung, Joerg Strohschein และ Felix Boehmer ซึ่งเคยทำงานร่วมกันที่ Siemens Energy ที่นั่น พวกเขาได้คิดค้นวิธีใหม่ในการนำพลังงานความร้อนใต้พิภพมาใช้ซึ่งมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจยิ่งกว่าเดิม ด้วยการใช้ก๊าซ CO₂ เป็นตัวกลางหลักในวงจรการผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพ แทนการใช้น้ำหรือสารละลายเกลือ (brine) แบบเดิม
Kendra Rauschenberger หุ้นส่วนทั่วไปของ Siemens Energy Ventures กล่าวว่า “ดิฉันรู้สึกยินดีที่ได้เห็นเทคโนโลยีนี้ก้าวหน้าไปสู่การพาณิชย์ หลังจากที่ได้รับการพัฒนาภายใน Siemens Energy Ventures พลังงานความร้อนใต้พิภพเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่เชื่อถือได้ และเราจะทำงานร่วมกับ Factor2 Energy เพื่อปรับแต่งกังหันของเราให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของตลาดเกิดใหม่นี้”
กลไกการทำงาน: พลังงานสะอาดจาก CO₂ ที่กักเก็บไว้ ทั้งปลอดภัย ขยายกำลังผลิตได้ และยั่งยืน
เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ได้ทั้งกับแหล่งกักเก็บ CO₂ ตามธรรมชาติ หรือแหล่งกักเก็บที่สร้างขึ้นเพื่อการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage) โดย CO₂ (ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือได้จากการดักจับ) ถูกอัดฉีดเข้าสู่ชั้นหินรูพรุนในระดับลึกใต้ดิน โดยจะสามารถกักเก็บได้อย่างแน่นอนและมั่นคง เมื่อ CO₂ ดูดซับความร้อนใต้พิภพจากหินโดยรอบ ก็จะมีความหนาแน่นลดลง ทำให้เกิดการไหลเวียนด้วยแรงลอยตัวตามธรรมชาติ ที่เรียกว่า Thermosiphon Effect ส่งผลให้ CO₂ ลอยตัวขึ้นสู่ผิวดินผ่านบ่อผลิตได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ปั๊มใต้ดิน ช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลืองและทำให้กลไกการทำงานซับซ้อนน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อมาถึงผิวดิน ความร้อนจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยใช้ระบบกังหัน CO₂ แบบขับตรง หลังจากผ่านการขยายตัวแล้ว ก๊าซ CO₂ จะถูกทำให้เย็นลงและฉีดกลับเข้าสู่แหล่งกักเก็บ ก่อให้เกิดเป็นวงจรแบบปิดที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับยังคงสามารถกักเก็บ CO₂ ระยะยาวไปพร้อมกันได้
เมื่อเปรียบเทียบกับระบบพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ใช้น้ำแบบเดิม วิธีการนี้สามารถให้กำลังผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าถึงสองเท่า ภายใต้เงื่อนไขทางธรณีวิทยาที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังใช้เงินลงทุนเริ่มต้น (CAPEX) ที่ต่ำกว่าด้วย
“แนวทางของเราสามารถผลิตไฟฟ้าได้โดยไม่ปล่อยมลพิษ มีประสิทธิภาพสูง และผลิตพลังงานได้อย่างต่อเนื่องและเสถียร จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทน้ำมันและก๊าซแบบดั้งเดิมที่ต้องการขยายธุรกิจไปสู่สินทรัพย์ด้านพลังงานรูปแบบใหม่” Felix Boehmer ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าว “ที่จริงแล้ว ระบบทั้งหมดอาศัยเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานทั้งด้านการขุดเจาะและความเชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา”
ความเรียบง่ายในการเลือกทำเล: มีตัวเลือกสถานที่มากขึ้นและการปฏิบัติงานง่ายขึ้น
นอกจากจะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าสีเขียวที่เชื่อถือได้ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว การใช้ CO₂ ยังเปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพในพื้นที่ทางธรณีวิทยาที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้สามารถดึงพลังงานความร้อนจากแหล่งที่ระบบความร้อนใต้พิภพแบบดั้งเดิมไม่สามารถใช้งานได้
การใช้ CO₂ ช่วยให้ Factor2 Energy สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานที่ตื้นกว่าและอุณหภูมิต่ำกว่าเดิม ลดต้นทุนการขุดเจาะ และช่วยเพิ่มทางเลือกของสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้าที่เป็นไปได้ ระบบนี้ยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่ที่ระบบดั้งเดิมทำไม่ได้ ทั้งยังสามารถแข่งขันได้ในด้านต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วย (Levelized Cost of Electricity : LCOE) นอกจากนี้ ยังตัดความจำเป็นในการใช้ของไหลทดแทนหรือระบบไบนารีที่ซับซ้อนออกไป ทำให้การดำเนินงานง่ายขึ้น และด้วยการใช้ประโยชน์ทั้งจากชั้นหินที่ออกแบบมาเพื่อกักเก็บ CO₂ (CCS) และแหล่ง CO₂ ตามธรรมชาติ Factor2 Energy จึงสามารถเปลี่ยนพื้นที่เหล่านี้ให้เป็นสินทรัพย์พลังงานที่สร้างรายได้และใช้งานได้จริง
Helen Lin หุ้นส่วนของ At One Ventures กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นรากฐานสำคัญของการขยายการใช้พลังงานไฟฟ้าให้แพร่หลาย จึงทำให้ความต้องการไฟฟ้าที่ผลิตได้ต่อเนื่องซึ่งมีต้นทุนคุ้มค่ามีความเร่งด่วนกว่าที่เคย หลักฟิสิกส์ของการใช้ CO₂ เป็นสารทำงานในระบบความร้อนใต้พิภพจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 2 เท่า แม้จะทำงานในระดับความลึกและอุณหภูมิเดียวกับระบบดั้งเดิม ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านต้นทุนลงทุน (CAPEX) และต้นทุนดำเนินการ (OPEX) ผลลัพธ์ทางเทคโนโลยีและเศรษฐศาสตร์นี้รวมกันทำให้ได้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยที่เหมาะสม ในทำเลที่แต่เดิมไม่สามารถพัฒนาได้ด้วยเหตุผลความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เรายินดีอย่างยิ่งที่จะได้สนับสนุน Factor2 ในการนำเทคโนโลยีสำคัญนี้ออกสู่ตลาด เพื่อปลดล็อกศักยภาพของพลังงานความร้อนใต้พิภพ ให้เป็นแหล่งพลังงานสีเขียวพื้นฐานที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น”
Timo Bertsch ผู้จัดการการลงทุนที่ HTGF ให้ความเห็นว่า “เราตัดสินใจลงทุนใน Factor2 Energy เพราะเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของพวกเขาสามารถขยายศักยภาพพลังงานความร้อนใต้พิภพทั่วโลกได้อย่างมหาศาล และยังสามารถเปลี่ยนแหล่งกักเก็บ CO₂ ให้กลายเป็นโรงไฟฟ้าที่ผลิตพลังงานได้จริง ความสำเร็จในการพิสูจน์แนวคิดภายใต้สภาพธรณีวิทยาที่ซับซ้อน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการขยายผลได้ของแนวทางนี้ เราเชื่อว่า Factor2 Energy อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานระดับโลก”
เกี่ยวกับ Factor2 Energy
Factor2 Energy เป็นบริษัทด้าน Climate-Tech จากเยอรมนี ที่พัฒนาระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพโดยใช้ก๊าซ CO₂ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพที่มีอุณหภูมิระดับปานกลางได้ ด้วยการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลาง และเมื่อเปรียบเทียบกับระบบดั้งเดิม ยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าสูงสุดถึงสองเท่า โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคนิคขุดเจาะแบบ Fracking, การขุดเจาะลึกเป็นพิเศษ หรือกระบวนการที่สิ้นเปลืองน้ำ บริษัทก่อตั้งขึ้นโดยอดีตทีมงานจาก Siemens Energy หลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จในการพิสูจน์แนวคิด และปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนด้าน Climate ชั้นนำ โดยมีรอบการระดมทุนล่าสุดที่นำโดย At One Ventures พันธกิจของ Factor2 Energy คือการปลดล็อกศักยภาพการผลิตไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพที่สะอาด ขยายกำลังผลิตได้ และผลิตพลังงานได้อย่างต่อเนื่องและเสถียร ทั้งยังสามารถสนับสนุนการกักเก็บคาร์บอนระยะยาวได้อย่างถาวร
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2774324/Factor2_Energy_Logo.jpg?p=medium600
View original content to download multimedia: Read More