Skip to content
Home » PR Newswire » Goldman Sachs คงอันดับ ‘ซื้อ’ ให้กับ Waterdrop พร้อมกำหนดราคาเป้าหมายที่ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐ

Goldman Sachs คงอันดับ ‘ซื้อ’ ให้กับ Waterdrop พร้อมกำหนดราคาเป้าหมายที่ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐ

ปักกิ่ง, 20 มีนาคม 2568 /PRNewswire/ — หลังการเผยผลประกอบการไตรมาสที่สี่และตลอดทั้งปี 2567 ของบริษัท Waterdrop Inc. (WDH) รายงานการวิจัยล่าสุดของ Goldman Sachs ยังคงการจัดอันดับ “ซื้อ” ให้กับWaterdrop และกำหนดราคาเป้าหมายที่ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ADS ภายในระยะเวลา 12 เดือน

ทั้งนี้ ตามรายงานของ Goldman Sachs นั้น Waterdrop สามารถทำกำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นได้สูงกว่าคาดการณ์ไว้ ที่ 368 ล้านหยวน (ประมาณ 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับตลอดทั้งปี 2567 โดยเพิ่มขึ้น 119.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในไตรมาสที่สี่ของปี 2567 ค่าเบี้ยประกันปีแรก (FYP) จากธุรกิจประกันภัยมีมูลค่าถึง 1.9 พันล้านหยวน (ประมาณ 263 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเพิ่มขึ้น 24.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งได้รับแรงหนุนหลักจากประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในการหาลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยระยะสั้น นอกจากนี้ ภาวะการขาดทุนในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่ประกันภัยยังลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสดังกล่าว

ในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่และตลอดทั้งปี 2567 ของบริษัท Waterdrop ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดที่ 0.02 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ADS ซึ่งทำให้ยอดรวมเงินปันผลของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 0.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ADS (สอดคล้องกับปี 2566) ด้วยการดำเนินงานที่มีเสถียรภาพ บริษัทจึงมีแผนที่จะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดทุกครึ่งปีต่อไป

ในส่วนของการซื้อหุ้นคืน นับตั้งแต่ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนในเดือนกันยายน 2564 Waterdrop ได้ซื้อคืนหุ้น ADS (American Depositary Shares) แล้วประมาณ 52.1 ล้านหุ้นจากตลาดเปิด ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Waterdrop เป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ในอุตสาหกรรมที่นำปัญญาประดิษฐ์โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เข้ามาใช้ และได้ขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างนวัตกรรมผ่านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง โดยบริษัทได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาประมาณ 300 ล้านหยวน (ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี ทั้งยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีรวมมากกว่า 100 รายการ และสร้างระบบแอปพลิเคชัน LLM ที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์ด้านประกันภัย โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Waterdrop ได้เปิดตัวโมเดล DeepSeek ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบริการที่ทำงานด้วย AI ได้อย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มตลาดเฉพาะ

การประยุกต์ใช้โมเดลขนาดใหญ่ของ Waterdrop มุ่งเน้นไปที่ 2 ด้านหลัก ได้แก่ การเปิดตัว AI Insurance Assistant เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่บุคลากรด้านบริการประกันภัย และการอัปเกรด AI Insurance Expert เพื่อมอบบริการให้คำปรึกษาและวางแผนด้านประกันภัยแก่ลูกค้า ตัวอย่างเช่น บริษัทได้เปิดตัว Bao Xiaohui ซึ่งเป็น AI Service Assistant ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันเพื่อตอบคำถามแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดการส่งต่อปัญหาไปยังระดับสูงขึ้น และปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการให้ดีขึ้นได้ประมาณ 50%

สำหรับปีงบการเงิน 2568 Waterdrop คาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตขึ้นราว 20% พร้อมลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อการขยายธุรกิจ นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการขายและการตลาดสูงขึ้น ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่ออัตรากำไรของบริษัทได้ อย่างไรก็ตาม ภาวะขาดทุนที่ลดลงจากกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่ประกันภัยก็อาจช่วยชดเชยความกดดันนี้ได้บางส่วน

 

View original content to download multimedia: Read More