บาร์เซโลนา, สเปน, 5 มีนาคม 2568 /PRNewswire/ — ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่งาน MWC Barcelona 2025 นั้น คุณ He Bo ประธานสายผลิตภัณฑ์ศูนย์ข้อมูลและระบบไฟฟ้าสำคัญของ Huawei ได้เปิดตัวสถาปัตยกรรมระบบพลังงานสำหรับไซต์งานรุ่นใหม่อย่าง “Single SitePower” และแนวทางการสร้างศูนย์ข้อมูล AI อย่าง RASTM เพื่อสนับสนุนให้ผู้ให้บริการสามารถเป็นได้ทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้พลังงาน และสร้างสรรค์โครงสร้างพื้นฐาน ICT ที่ดียิ่งขึ้นในยุค AI
He Bo, President of Huawei Data Center Facility & Critical Power Product Line
คุณ He Bo กล่าวว่า “ในยุคอัจฉริยะนี้ สถาปัตยกรรมเครือข่ายที่เน้นศูนย์ข้อมูลเป็นหลัก กำลังผลักดันให้เกิดความต้องการพลังงานดิจิทัลและอัจฉริยะที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” โดย Huawei Digital Power มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและโซลูชัน เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถเป็นผู้ผลิตและผู้ใช้พลังงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
Single SitePower: สถาปัตยกรรมอัจฉริยะแบบใหม่สำหรับระบบพลังงานประจำไซต์
Single SitePower คือสถาปัตยกรรมโซลูชันอัจฉริยะยุคใหม่สำหรับระบบพลังงานประจำไซต์ โดยใช้กลไกการทำงานร่วมกันแบบ 3 ระดับที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งครอบคลุมระบบพลังงานประจำไซต์ เครือข่ายไร้สาย และโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและพลังงานแบบสองทิศทางครบวงจร ตั้งแต่แหล่งพลังงาน โครงข่าย โหลด ไปจนถึงการจัดเก็บ สถาปัตยกรรมนี้รองรับการตรวจจับ แสดงผล และจัดการแบบครบวงจร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานของไซต์ (SEE) และความพร้อมใช้งานของพลังงาน (PAV) พร้อมลดความเข้มข้นของคาร์บอนในเครือข่าย (NCIe) สถาปัตยกรรมนี้มีจุดเด่น 3 ประการ ได้แก่
ความทนทาน: Huawei ผสานรวมเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายระบบพลังงานประจำไซต์ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างโครงข่ายกับแหล่งพลังงาน แหล่งพลังงานกับระบบจัดเก็บ และระบบจัดเก็บกับโหลด สร้างระบบประจำไซต์ที่มีความทนทานตลอดกระบวนการ
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น การเชื่อมต่อแบบอนุกรมแรงดันสูง อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพ อัลกอริทึมอัจฉริยะ อุปกรณ์ตัดวงจรกระแสไฟฟ้าขัดข้องจากอาร์ค (AFCI) และอุปกรณ์หยุดทำงานฉุกเฉิน (RSD) เพื่อสร้างไซต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเร่งสร้างมูลค่าจากพลังงานสีเขียว
ความน่าเชื่อถือ: Huawei ให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่ลิเธียมคุณภาพสูงและปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพื่อรับประกันการสื่อสารที่เชื่อถือได้
RASTM: แนวทางการสร้างศูนย์ข้อมูล AI
จากยุคการประมวลผลทั่วไปสู่ยุคการประมวลผลด้วย AI ศูนย์ข้อมูลต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ ความน่าเชื่อถือ ความไม่แน่นอน การส่งมอบที่รวดเร็ว และความต้องการพลังงานที่สูง โดย Huawei ผนึกกำลังสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ร่วมกับลูกค้าทั่วโลก และนำเสนอแนวทางการสร้างศูนย์ข้อมูล AI อย่าง RASTM
ความน่าเชื่อถือ (Reliable): เมื่อมูลค่าของสิ่งอำนวยความสะดวกด้าน AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความน่าเชื่อถือจึงกลายเป็นความท้าทายหลัก โดยศูนย์ข้อมูล AI ควรนำสถาปัตยกรรมที่ได้รับการปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ การจัดการอัจฉริยะ และบริการระดับมืออาชีพมาใช้ เพื่อรับประกันความน่าเชื่อถือตลอดวงจรชีวิต
ความคล่องตัว (Agile): ศูนย์ข้อมูล AI ควรมีความคล่องตัว โดยนำการออกแบบในลักษณะโมดูลาร์และการแยกส่วนระบบกลไฟฟ้ามาใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่ไม่แน่นอนได้อย่างยืดหยุ่น และทำให้ส่งมอบได้อย่างรวดเร็ว
ความยั่งยืน (Sustainable): ประสิทธิภาพการจ่ายพลังงานจะเป็นประเด็นสำคัญสำหรับศูนย์ข้อมูล โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานจะเปลี่ยนจากประสิทธิภาพของอุปกรณ์แต่ละชิ้น ไปสู่ประสิทธิภาพของระบบคู่ขนาน และจากนั้นไปสู่การนำระบบควบคุมการประหยัดพลังงานอัจฉริยะ (S-ECO) มาใช้ในวงกว้าง
คุณ He Bo กล่าวว่า “เราสนับสนุนแนวคิดพลังงานเพื่อ AI และ AI เพื่อพลังงาน และจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัล อัจฉริยะ และคาร์บอนต่ำให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ICT ที่มีความทนทาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเชื่อถือได้ เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการเปลี่ยนจากผู้บริโภคพลังงานไปสู่ผู้ผลิตและผู้บริโภคพลังงาน”
มหกรรม MWC Barcelona 2025 มีขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคม ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยภายในงาน Huawei จะจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันล่าสุดที่บูธ 1H50 ที่ Fira Gran Via Hall 1 ทั้งนี้ ในปี 2568 การใช้งาน 5G-Advanced เชิงพาณิชย์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว และ AI จะเข้ามาช่วยผู้ให้บริการเครือข่ายปรับเปลี่ยนธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และการดูแลระบบ Huawei กำลังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายและพันธมิตรทั่วโลก เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่โลกอัจฉริยะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: http://carrier-back.huawei.com/en/events/mwc2025
View original content to download multimedia: Read More