ในยุคปัจจุบันที่คู่รักจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเติมเต็มความฝันที่จะมีลูกน้อย โดยหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมและมีอัตราความสำเร็จสูงคือ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) หรือการปฏิสนธิภายนอกร่างกายโดยการฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของโปรแกรม ICSI เพื่อให้คุณสามารถเลือกโปรแกรมที่ “คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด” สำหรับเส้นทางสู่การเป็นพ่อแม่
โปรแกรม ICSI: เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด เพื่อสานฝันครอบครัวให้เป็นจริง
ICSI คืออะไร ทำไมจึงเป็นทางเลือกสำหรับภาวะมีบุตรยาก ?
ICSI คือ เทคนิคการปฏิสนธิที่ใช้ในกรณีที่คู่รักมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพอสุจิ เช่น จำนวนอสุจิน้อย อสุจิเคลื่อนไหวผิดปกติ หรืออสุจิมีรูปร่างผิดปกติ รวมถึงในกรณีที่เคยทำ IVF (In Vitro Fertilization) มาก่อนแล้วไม่ประสบความสำเร็จ
ขั้นตอนคร่าว ๆ ของ ICSI มีดังนี้
- กระตุ้นไข่ : ฝ่ายหญิงจะได้รับยาฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้รังไข่สร้างไข่จำนวนมาก
- เก็บไข่ : เมื่อไข่เจริญเติบโตเต็มที่ แพทย์จะทำการเก็บไข่ออกมา
- เก็บอสุจิ : ฝ่ายชายจะเก็บอสุจิ หรืออาจมีการเก็บอสุจิด้วยวิธีการผ่าตัดในกรณีที่อสุจิมีปัญหามาก
- ฉีดอสุจิเข้าเซลล์ไข่ : นักวิทยาศาสตร์จะคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงหนึ่งตัว ฉีดเข้าไปในไข่โดยตรงภายใต้กล้องจุลทรรศน์
- เลี้ยงตัวอ่อน : ตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้วจะถูกนำไปเลี้ยงในห้องปฏิบัติการเป็นเวลา 3-5 วัน
- ย้ายตัวอ่อนกลับสู่โพรงมดลูก : เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตถึงระยะที่เหมาะสม แพทย์จะย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง
- ตรวจการตั้งครรภ์ : หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ จะมีการตรวจเลือดเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์
โปรแกรม ICSI ราคาเท่าไร ? ค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้เพื่อการวางแผน
ราคาของโปรแกรม ICSI มีความแตกต่างกันไปในแต่ละคลินิกหรือโรงพยาบาล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชื่อเสียงของสถานพยาบาล เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ใช้ ประสบการณ์ของทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ รวมถึงรายละเอียดของแพ็คเกจที่เสนอ
โดยทั่วไป ราคาโปรแกรม ICSI ในประเทศไทยจะอยู่ระหว่าง 150,000 – 300,000 บาท หรืออาจสูงกว่านั้นในบางกรณี อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจว่า “ราคาโปรแกรม” ที่เห็นนั้น ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกิดขึ้น
ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่คุณต้องพิจารณาเมื่อตัดสินใจทำ ICSI
ค่าใช้จ่ายของโปรแกรม ICSI โดยตรง
- ค่ายากระตุ้นไข่ : เป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญและแตกต่างกันไปตามชนิดและปริมาณยาที่ใช้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล
- ค่าเก็บไข่ : ค่าใช้จ่ายในการทำหัตถการเก็บไข่
- ค่าเก็บอสุจิ : หากจำเป็นต้องเก็บอสุจิด้วยวิธีการผ่าตัด เช่น TESE หรือ PESA จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ค่าฉีดอสุจิเข้าเซลล์ไข่ (ICSI) : ค่าดำเนินการทางห้องปฏิบัติการ
- ค่าเลี้ยงตัวอ่อน : ค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการ
- ค่าย้ายตัวอ่อน : ค่าใช้จ่ายในการทำหัตถการย้ายตัวอ่อน
- ค่ายาเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูก : ยาที่ใช้เพื่อเตรียมความพร้อมของมดลูกก่อนการย้ายตัวอ่อน
- ค่าตรวจเลือด/อัลตราซาวนด์ติดตามผล : ระหว่างขั้นตอนการกระตุ้นไข่และหลังการย้ายตัวอ่อน
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้น
- ค่าปรึกษาแพทย์เบื้องต้นและค่าตรวจวินิจฉัย : ก่อนเริ่มโปรแกรม ICSI แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ตรวจอัลตราซาวนด์ เพื่อประเมินภาวะและสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแยกต่างหาก
- ค่าตรวจโครโมโซมตัวอ่อน (PGT-A/PGT-M) : หากต้องการตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อนเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสูงมาก
- ค่าแช่แข็งตัวอ่อน/อสุจิ/ไข่ : ในกรณีที่ต้องการเก็บตัวอ่อน อสุจิ หรือไข่ไว้ใช้ในอนาคต จะมีค่าใช้จ่ายในการแช่แข็งและค่าบำรุงรักษาต่อปี
- ค่าใช้จ่ายสำหรับภาวะแทรกซ้อน : เช่น ภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป (OHSS) ซึ่งอาจต้องเข้ารับการรักษาเพิ่มเติม
- ค่ารักษาภาวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง : เช่น เนื้องอกในมดลูก ช็อกโกแลตซีสต์ ที่อาจต้องได้รับการรักษาก่อนเริ่มโปรแกรม ICSI
- ค่าใช้จ่ายในกรณีที่ต้องทำซ้ำ : หากไม่ประสบความสำเร็จในการทำ ICSI ครั้งแรก การทำซ้ำย่อมหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับทางการแพทย์โดยตรง
- ค่าเดินทาง : หากคลินิกหรือโรงพยาบาลอยู่ไกลจากที่พักของคุณ คุณจะต้องวางแผนค่าเดินทาง ซึ่งอาจรวมถึงค่าตั๋วเครื่องบิน ค่ารถยนต์ส่วนตัว หรือค่าบริการรถสาธารณะ
- ค่าที่พัก : ในกรณีที่คุณต้องเดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อมาทำ ICSI คุณอาจต้องหาที่พักใกล้เคียง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป
- ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ : ระหว่างที่เข้ารับการรักษา
เลือกโปรแกรม ICSI อย่างไรให้คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด ?
การเลือกโปรแกรม ICSI ที่คุ้มค่าและคุ้มราคานั้น ไม่ได้หมายถึงการเลือกราคาที่ถูกที่สุดเสมอไป แต่เป็นการเลือกโปรแกรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคลมากที่สุด โดยพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้
ศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบราคาอย่างละเอียด
ขอใบเสนอราคา (Quotation) จากหลาย ๆ คลินิก/โรงพยาบาล ตรวจสอบให้แน่ใจว่าในใบเสนอราคานั้นครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายแฝงอะไรหรือไม่ เพราะอาจมีบางคลินิกเสนอโปรแกรม ICSI เริ่มต้นด้วยราคาถูก แต่มีค่าใช้จ่ายปลีกย่อยเพิ่มเติมมากมาย ทำให้สุดท้ายแล้วราคารวมอาจสูงกว่าที่คิด หรือบางแพ็คเกจอาจมีราคาที่ดูสูงกว่า แต่ครอบคลุมบริการที่ครบถ้วนกว่า เช่น รวมค่ายาบางชนิด หรือรวมค่าแช่แข็งตัวอ่อนไว้แล้ว จึงต้องสอบถามรายละเอียดของแพ็คเกจให้ครบถ้วน
พิจารณาชื่อเสียงและประสบการณ์ของสถานพยาบาลและทีมแพทย์
ลองสอบถามอัตราความสำเร็จของ ICSI ของสถานพยาบาลนั้น ๆ แต่ต้องเข้าใจว่าอัตราความสำเร็จขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงปัจจัยส่วนบุคคลของแต่ละคู่ด้วย ทั้งนี้ทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ที่มีประสบการณ์สูง ย่อมเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ และอย่าลืมดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจ
คุณภาพของห้องปฏิบัติการและเทคโนโลยีที่ใช้
ต้องพิจารณาด้วยว่าห้องปฏิบัติการที่ใช้นั้นควรมีมาตรฐานสูง มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย และมีระบบควบคุมคุณภาพที่ดี ย่อมส่งผลต่อคุณภาพของไข่ อสุจิ และตัวอ่อน และควรสอบถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีเสริมต่าง ๆ ที่สถานพยาบาลนั้นมี เช่น Time-lapse incubator, PGT-A/PGT-M และพิจารณาว่าคุ้มค่ากับการลงทุนเพิ่มเติมหรือไม่
ความสะดวกสบายในการเดินทางและบริการหลังการรักษา
ควรเลือกสถานพยาบาลที่เดินทางสะดวก เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง และควรพิจารณาการบริการของพนักงาน ทั้งการให้ข้อมูล การตอบข้อสงสัย รวมถึงการดูแลหลังการรักษา
ประเมินสภาพร่างกายและงบประมาณของตนเอง
ที่สำคัญคือควรปรึกษาแพทย์ให้ช่วยประเมินสภาพร่างกายของคุณและแนะนำโปรแกรมที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ โดยควรกำหนดงบประมาณที่ชัดเจน วางแผนการเงินล่วงหน้าและยึดติดกับงบประมาณที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางการเงินในภายหลัง
การตัดสินใจทำ ICSI เป็นการลงทุนครั้งสำคัญ ทั้งด้านเวลา ร่างกาย และจิตใจ การเลือกโปรแกรม ICSI ที่ “คุ้มค่า คุ้มราคา” จึงไม่ใช่เพียงแค่การมองหาราคาที่ถูกที่สุด แต่เป็นการเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับความต้องการและข้อจำกัดของแต่ละบุคคลมากที่สุด โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน ทั้งค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน คุณภาพของสถานพยาบาลและทีมแพทย์ รวมถึงการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสสานฝันการมีครอบครัวที่สมบูรณ์