ปัจจุบันการดูแลผิวพรรณมีทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการความงาม นั่นคือ “PRP” หรือ Platelet Rich Plasma” ซึ่งถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายว่าเป็นเทคนิคการฟื้นฟูผิวด้วยวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน โดยเฉพาะในคลินิกเสริมความงามและคลินิกผิวหนังระดับพรีเมียม แต่สำหรับหลายคนที่ยังสงสัยว่า Platelet Rich Plasma คืออะไรกันแน่? และสามารถช่วยรักษาปัญหาผิวอะไรได้บ้าง? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ
Platelet Rich Plasma คืออะไร?
Platelet Rich Plasma คือการนำเลือดของผู้เข้ารับบริการมาปั่นแยกเอาเฉพาะส่วนที่เรียกว่า “พลาสมาเข้มข้นเกล็ดเลือด” ซึ่งส่วนนี้จะอุดมไปด้วยเกล็ดเลือดและโกรทแฟคเตอร์ (Growth Factors) ที่มีคุณสมบัติช่วยในการซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ โดยแพทย์จะนำ PRP ที่ได้ไปฉีดกลับเข้าสู่ผิวบริเวณที่ต้องการรักษา
กระบวนการนี้ไม่มีการใช้สารเคมีเจือปน และเนื่องจากใช้เลือดของตัวเอง ความเสี่ยงเรื่องการแพ้หรือการติดเชื้อจึงต่ำมาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนหันมาสนใจ PRP เพื่อแก้ปัญหาผิวในระยะยาว
Platelet Rich Plasma รักษาปัญหาผิวอะไรได้บ้าง?
หลายคลินิกในปัจจุบันนำ PRP มาใช้เพื่อบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวในหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาที่ลึกและแก้ยากด้วยวิธีทั่วไป ซึ่งสามารถช่วยได้ในเรื่องดังนี้
1. ลดเลือนริ้วรอย
โกรทแฟคเตอร์จาก PRP ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกให้ตื้นขึ้น ผิวกลับมาเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์
2. ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ
หากคุณมีผิวแห้งเสียจากแดด หรือเริ่มแสดงสัญญาณแห่งวัย PRP สามารถช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวและฟื้นฟูความกระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ
3. ลดรอยแผลเป็นจากสิว
Platelet Rich Plasma คือตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่มีหลุมสิวหรือแผลเป็นบนใบหน้า PRP จะกระตุ้นให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาแทนที่รอยแผลเดิม ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นเมื่อทำต่อเนื่อง
4. ลดปัญหารูขุมขนกว้าง
ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและความกระชับใต้ผิว PRP จึงช่วยให้รูขุมขนแลดูกระชับลงได้ชัดเจน
5. รักษาผมร่วง ผมบาง
ไม่เพียงแต่เรื่องผิวเท่านั้น Platelet Rich Plasma คือทางเลือกที่นิยมในการรักษาผมร่วงและผมบาง โดยแพทย์จะฉีด PRP เข้าบริเวณหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่
ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
แม้การฉีด PRP จะเริ่มเห็นผลภายใน 2–4 สัปดาห์หลังทำ แต่โดยทั่วไปแพทย์แนะนำให้ทำประมาณ 3–5 ครั้ง ห่างกันทุก 3–4 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืน โดยบางรายอาจต้องทำซ้ำทุก 6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์ไว้
มีข้อควรระวังหรือผลข้างเคียงไหม?
เนื่องจาก PRP ใช้เลือดของผู้เข้ารับบริการเอง โอกาสแพ้จึงน้อยมาก ผลข้างเคียงที่อาจพบ ได้แก่ รอยช้ำเล็กน้อยจากเข็ม หรืออาการบวมที่หายได้ใน 1–2 วัน ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
Platelet Rich Plasma คือเทคโนโลยีความงามที่น่าสนใจ เพราะเป็นวิธีธรรมชาติ ปลอดภัย และเหมาะกับการฟื้นฟูผิวในหลายด้าน ตั้งแต่ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง หลุมสิว ไปจนถึงปัญหาผมร่วง หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือการผ่าตัด PRP อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหาอยู่