Skip to content
Home » PR Newswire » ZTE จับมือ MTN เปิดตัว RRU 5 แบนด์ตัวแรกของโลกในเชิงพาณิชย์

ZTE จับมือ MTN เปิดตัว RRU 5 แบนด์ตัวแรกของโลกในเชิงพาณิชย์

โจฮันเนสเบิร์ก, 4 ก.ย. 2568 /PRNewswire/ — ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำระดับโลก และ MTN ผู้ให้บริการเครือข่ายเคลื่อนที่ชั้นนำในแอฟริกา ประกาศความสำเร็จในการเปิดตัวหน่วยวิทยุระยะไกล (RRU) แบบ 5 แบนด์เป็นครั้งแรกของโลกในเชิงพาณิชย์ที่จังหวัดเวสเทิร์นเคปในแอฟริกาใต้ ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุระดับโลก ทั้งยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งในการผลักดันเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของแอฟริกา

ZTE จับมือ MTN เปิดตัว RRU 5 แบนด์ตัวแรกของโลกในเชิงพาณิชย์
ZTE จับมือ MTN เปิดตัว RRU 5 แบนด์ตัวแรกของโลกในเชิงพาณิชย์

แอฟริกาใต้เป็นหนึ่งในตลาดโทรคมนาคมที่ใหญ่และล้ำหน้าที่สุดของทวีปแอฟริกา มีประชากรกว่า 60 ล้านคน โดย MTN สามารถให้บริการเครือข่าย LTE ครอบคลุมประชากรกว่า 97% ทั่วประเทศ การเข้าถึงที่กว้างขวางนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ MTN ในการส่งมอบบริการสื่อสารคุณภาพสูงแม้ในพื้นที่ห่างไกลที่สุด

เมื่อบริการแบบหลายแบนด์และหลายโมดูลเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ให้บริการเครือข่ายจึงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งเรื่องการใช้พลังงาน โหลดของเสาทาวเวอร์ และพื้นที่ติดตั้งที่จำกัด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเครือข่ายมือถือ แต่การนำ RRU แบบ 5 แบนด์ของ MTN มาใช้งานนั้นช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด โดยโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย ประหยัดพลังงาน และทำให้การติดตั้งง่ายขึ้น ส่งผลให้สามารถขยายการเชื่อมต่อแห่งอนาคตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืนกว่าเดิม

การเพิ่มย่านความถี่ใหม่บนสถานีฐานมือถือมักต้องใช้ฮาร์ดแวร์ใหม่ ทั้งยังใช้พื้นที่และพลังงานมากขึ้น แต่ RRU แบบ 5 แบนด์ ที่ใช้ชิปเซ็ตที่ทาง ZTE ออกแบบเอง สามารถรวมย่านความถี่ต่ำและกลาง (FDD) ทั้งหมดของ MTN South Africa ไว้ในยูนิตขนาดกะทัดรัดเพียงชิ้นเดียวได้ ซึ่งช่วยลดจำนวนโมดูลคลื่นความถี่วิทยุ RAN บนเสาสัญญาณได้ถึง 50% ทำให้น้ำหนักอุปกรณ์ลดลง 23% และลดแรงต้านลมได้ 18% การปรับปรุงเหล่านี้ช่วยให้การก่อสร้างสถานีฐานง่ายขึ้น ลดความซับซ้อนในการติดตั้ง และเพิ่มพื้นที่ว่างบนเสาสัญญาณได้อย่างคุ้มค่า

นอกจากนี้ สถาปัตยกรรมขยายสัญญาณ Super-N สุดล้ำของ ZTE ยังใช้การจัดเรียงเพาเวอร์แอมป์แบบหนาแน่น ซึ่งเปิดใช้งานตามความต้องการได้ ช่วยแก้ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพของสถาปัตยกรรม Doherty แบบเดิม และยังคงรักษาประสิทธิภาพสูงได้แม้ภายใต้โหลดที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ลดการใช้พลังงานรวมของสถานีได้ถึง 42.7% และเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน (Wh/GB) ได้ 45.8% สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยแอฟริกาใต้ก้าวสู่สังคมสีเขียวและคาร์บอนต่ำ แต่ยังยกระดับมาตรฐานใหม่เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน แสดงให้เห็นศักยภาพอันมหาศาลของนวัตกรรมเทคโนโลยีในการสร้างสมดุลระหว่างต้นทุนกับสิ่งแวดล้อม

Rami Farah ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ MTN South Africa กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่าง MTN กับ ZTE ในการนำ RRU 5 แบนด์ ตัวแรกของโลกมาใช้งานเชิงพาณิชย์นี้ ช่วยแก้ปัญหาหลายด้านที่ผู้ให้บริการเครือข่ายต้องเผชิญ ทั้งเรื่องความครอบคลุม ความจุ ต้นทุน และการประหยัดพลังงาน ถือเป็นโซลูชันสถานีฐานครบวงจรที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงทั่วแอฟริกาและตลาดโลก ช่วยเร่งการพัฒนาเครือข่ายโทรคมนาคมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและปล่อยคาร์บอนน้อยลง เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัลของแอฟริกา และยกระดับเทคโนโลยีโทรคมนาคมของแอฟริกาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น”

Luca Shen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ZTE South Africa กล่าวว่า “ZTE ให้ความสำคัญกับการเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์มาโดยตลอดเพื่อใช้เป็นจุดแข็งในการแข่งขัน และมุ่งมั่นที่จะส่งมอบโซลูชันที่ล้ำสมัย ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ MTN ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างประโยชน์ร่วมกันและผลลัพธ์ที่ให้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย แต่ยังช่วยเร่งยกระดับเครือข่ายโทรคมนาคมของแอฟริกาใต้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลทั่วทั้งทวีปแอฟริกา”

ZTE และ MTN ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมในแอฟริกาต่อไป โดยเน้นที่การประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยมลพิษ และส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งสองบริษัทเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “ปกป้องธรรมชาติด้วยเทคโนโลยี และขับเคลื่อนอนาคตด้วยนวัตกรรม” เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล สร้างเครือข่ายที่ชาญฉลาดและยั่งยืนยิ่งขึ้น และมีส่วนช่วยให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางสังคมทั่วทั้งทวีปแอฟริกา

การเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของแอฟริกา ทั้งยังตอกย้ำศักยภาพอันมหาศาลของนวัตกรรมเทคโนโลยี ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

สื่อมวลชนติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง
อีเมล: [email protected] 

 

View original content to download multimedia: Read More