Skip to content
Home » PR Newswire » งาน ADFW ประจำปี 2568 ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ เผยวิสัยทัศน์การเติบโตของอาบูดาบีในทศวรรษหน้า พร้อมดึงดูดผู้ร่วมงานได้กว่า 35,000 คน

งาน ADFW ประจำปี 2568 ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ เผยวิสัยทัศน์การเติบโตของอาบูดาบีในทศวรรษหน้า พร้อมดึงดูดผู้ร่วมงานได้กว่า 35,000 คน

อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 19 ธ.ค. 2568  /PRNewswire/ — งานสัปดาห์การเงินอาบูดาบี หรือ Abu Dhabi Finance Week (ADFW) ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้พระอุปถัมภ์ของ Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี และประธานสภาบริหารแห่งอาบูดาบี ได้ปิดฉากลงอย่างสำเร็จงดงามหลังผ่านพ้นสัปดาห์ที่เข้มข้นไปด้วยการหารือ การประกาศ และการกระชับความร่วมมือในทางวิสัยทัศน์ ซึ่งช่วยตอกย้ำบทบาทของอาบูดาบีในการเป็นศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำระดับโลก

งาน ADFW ประจำปี 2568 เป็นอีเวนต์ทางการเงินและการลงทุนระดับแฟล็กชิปของอาบูดาบี ซึ่งจัดโดย ADGM และมี ADQ เป็นพันธมิตรหลัก โดยได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการต้อนรับผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 35,000 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติกว่า 30% จาก 175 สัญชาติ ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม 68 รายการ และการสัมมนาเจาะลึก 394 เซสชัน พร้อมด้วยวิทยากรผู้ทรงอิทธิพล 819 ท่าน และพันธมิตรระดับโลกและระดับภูมิภาคกว่า 69 ราย รวมถึง Hanwha ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์

นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการจัดงานนี้ ที่มูลค่าสินทรัพย์รวมภายในงานสูงกว่า 62 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 53% ของ GDP โลก โดยบรรดาผู้นำในแวดวงเงินทุน นักลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล และนวัตกรจากทั่วโลก ได้มารวมตัวกัน ณ อาบูดาบี เพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมการเงินโลก

ฯพณฯ Ahmed Jasim Al Zaabi ประธาน ADGM กล่าวถึงความสำเร็จอันโดดเด่นของงาน ADFW ในครั้งนี้ว่า “ADFW ได้รับการยอมรับว่าเป็นการรวมตัวที่ทรงอิทธิพลมากเป็นอันดับต้น ๆ ในแวดวงการเงินโลก ความสำเร็จที่ทุบสถิติในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นศักยภาพของอาบูดาบีในการระดมทุนระดับโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยดึงดูดเหล่าผู้มีอำนาจตัดสินใจที่เป็นตัวแทนสินทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 62 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐให้มารวมตัวกันเพื่อร่วมกำหนดอนาคตแวดวงการเงิน งาน ADFW ได้ยกระดับสู่การเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกของอาบูดาบี ที่ช่วยขับเคลื่อนการทำข้อตกลงทางธุรกิจและระดมทุน ด้วยการผสานรวมทั้งด้านเงินทุน นโยบาย และนวัตกรรมเข้าด้วยกันอย่างแม่นยำและมั่นคง อาบูดาบีในฐานะ “เมืองหลวงแห่งเงินทุน” ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการเปิดเวทีสนทนาทางการเงินระดับโลกเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นวางรากฐานโครงสร้างที่จะเข้ามาเป็นตัวกำหนดทิศทางการเติบโตของโลกในทศวรรษหน้าอีกด้วย”

การเสวนาอันทรงพลังและการประกาศพลิกโฉมวงการ

งานในปีนี้ถือเป็นตัวเร่งให้เกิดความก้าวหน้าทางกลยุทธ์ในแวดวงการเงินโลก โดยหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่เห็นผลชัดเจนที่สุดคือ การที่ ADGM ได้ต้อนรับสถาบันการเงินระดับโลก 11 แห่ง ซึ่งบริหารจัดการสินทรัพย์รวมกันกว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งในช่วงก่อนและระหว่างการจัดงาน ADFW ครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับเป็นการสะท้อนภาพการรวมตัวของกลุ่มทุนระดับโลกในระบบนิเวศทางการเงินที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งของอาบูดาบี โดยในปี 2568 ช่วงก่อนเริ่มงาน ADFW นั้น บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง UBS Group, KKR, Julius Baer, HarbourVest, Madison Realty Capital, Partners Group, DWS และ Monroe Capital ต่างได้ประกาศจัดตั้งธุรกิจภายใต้เขต ADGM นอกจากนี้ ตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน องค์กรชั้นนำ อาทิ Cantor Fitzgerald, Circle Internet MEA, BBVA, ‘Arab Bank (Switzerland) Middle East Ltd, Gulf, Plenary ME Infrastructure Partners, iCapital และ Eurasian Development Bank ยังได้เผยโฉมสำนักงานแห่งใหม่ภายในศูนย์กลางทางการเงินระดับนานาชาติของอาบูดาบีอีกด้วย

ในการรวมตัวกันอย่างทรงพลังของภาคการเงินและสาธารณกุศล ได้มีการร่วมประกาศเจตนารมณ์ระดับโลกด้วยการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อกำจัดโรคโปลิโอให้หมดสิ้นไป ในช่วงวาระสำคัญระดับสูงซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิ Mohamed bin Zayed (MBZ) Foundation for Humanity โดยมี Bill Gates พร้อมด้วยผู้บริจาคทั้งระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับท้องถิ่นเข้าร่วมในโอกาสสำคัญนี้

นอกจากนี้ ยังปรากฏให้เห็นก้าวสำคัญในด้านการกำกับดูแล เมื่อ Binance ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ รายแรกของโลกที่ได้รับใบอนุญาตระดับโลกภายใต้กรอบข้อบังคับของ ADGM ซึ่งถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ระดับสากลในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำของอาบูดาบีในด้านนวัตกรรมทางการเงิน ขณะเดียวกัน ERM ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาเฉพาะทางด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ได้ประกาศเปิดสำนักงานแห่งใหม่ภายในพื้นที่ของ ADGM ซึ่งเป็นการชูบทบาทอันโดดเด่นของศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ในการร่วมขับเคลื่อนวาระด้านความยั่งยืนในระดับสากล

อาบูดาบีผงาด ขึ้นแท่นศูนย์กลางทางการเงินอันดับ 1 แห่งภูมิภาค MENA

ผลการจัดอันดับดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันของศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Centres Competitiveness Index หรือ FCCI) ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกภายในงาน ADFW โดย Stern School of Business at NYU Abu Dhabi (Stern at NYUAD) ยกให้อาบูดาบีครองตำแหน่งศูนย์กลางทางการเงินอันดับหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) และคว้าอันดับที่ 12 ของโลก ความสำเร็จดังกล่าวช่วยตอกย้ำชื่อเสียงของเมืองหลวงแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในการเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นทางการเงินที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกภายใต้การขับเคลื่อนของ ADGM

งาน ADFW ประจำปี 2568 ผู้วางรากฐานโครงข่ายเงินทุน

ความสำเร็จระดับทุบสถิติของงาน ADFW ประจำปี 2568 ในธีม “Engineering the Capital Network” ได้พิสูจน์ให้เห็นผลงานของอาบูดาบี ในการก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก พร้อมทั้งสะท้อนบทบาทสำคัญของ ADGM ในการร่วมวางโครงสร้างแห่งอนาคตให้กับอุตสาหกรรมการเงินโลก ผ่านการเชื่อมโยงเงินทุน เทคโนโลยี และนโยบายเข้าด้วยกันในมิติใหม่ ๆ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง

ภายในงานยังมีการประกาศบันทึกความเข้าใจ (MoU) และความร่วมมือทางกลยุทธ์ระหว่างองค์กรระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับท้องถิ่น โดยในปีนี้มีการลงนาม MoU และความร่วมมือรวมทั้งสิ้น 82 ฉบับตลอดช่วงการจัดงาน ADFW ซึ่งจะเข้ามากระชับความสัมพันธ์ข้ามพรมแดนและขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า องค์กรชั้นนำที่ใช้แพลตฟอร์มทางกลยุทธ์ของ ADFW เพื่อประกาศความร่วมมือในครั้งนี้มีทั้ง BlackRock, Franklin Templeton, Mubadala, Mastercard, Hanwha, Swiss Re, RIQ, Kitopi Global, Kresus, Zelo, MarcyPen Capital Partners, Tether, Crypto.com, Zodia, Presto, PCP, Warner bros. Discovery, Global World Gold Council, Bain Capital และอีกมากมาย

สำหรับการจัดงาน Abu Dhabi Finance Week ครั้งถัดไป มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 7-10 ธันวาคม 2569 เพื่อสานต่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของงาน ADFW ปี 2568 และตอกย้ำภาพลักษณ์ของ ADFW ในการเป็นเวทีรวมตัวระดับแถวหน้าในแวดวงการเงินโลกประจำภูมิภาคนี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.adfw.com

โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2550581/5072851/ADGM_Logo.jpg?p=medium600

View original content to download multimedia: Read More